รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
สารบัญ
สรุปภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือปี 2559
1 แนวโน้มเศรษฐกิจภาคเหนือปี 2560
2 ภาคเกษตรกรรม
3 Box : ผลกระทบของภาวะแล้งปี 2559
ต่อภาคเกษตรในภาคเหนือ
5 ภาคอุตสาหกรรม
7 ภาคการท่องเที่ยว
10 Box : การปรับตัวของธุรกิจท่องเที่ยวภาคเหนือหลังการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมาย
13 ภาคการค้า
15 การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน
17 การลงทุนภาคเอกชน
20 ภาคการคลัง
23 ภาคการค้าต่างประเทศ
28 เสถียรภาพด้านราคา
30 การจ้างงาน
32 ภาคการเงิน
37 รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
1
สรปุภาวะเศรษฐกจิการเงนิภาคเหนอืป ี2559
ภาวะเศรษฐกิจการเงินภาคเหนือปี 2559 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อน โดยมีปัจจัยฉุดรั้ง ส าคัญจากผลผลิตภาคเกษตรที่ลดลงเพราะแล้งในช่วงครึ่งแรกของปี ท าให้รายได้เกษตรลดลงมากและส่งผล ต่อเนื่องมายังอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อาทิ โรงสีข้าว ผักและผลไม้แช่แข็งและบรรจุกระป๋อง ต่อมาเมื่อ ภาวะแล้งได้คลี่คลายลง ผลผลิตภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปจึงปรับดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ด้านการผลิตเพื่อส่งออกในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เลนส์ และส่วนประกอบฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟที่ลดลงตามอุป สงค์ ได้ปรับดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ทั้งจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น และการผลิตสินค้าชนิดใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ตรงกับความการของตลาดมากขึ้น ด้านการลงทุนภาคเอกชนทรงตัว โดยเฉพาะในภาคการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่ยังซบเซาเช่นเดิม แม้มีมาตรการกระตุ้นภาค อสังหาริมทรัพย์แต่ส่งผลดีเพียงช่วงสั้นๆ ในขณะที่สถาบันการเงินยังเข้มงวดการให้สินเชื่อ ทั้งสินเชื่อที่ให้แก่ผู้ ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
ด้านปัจจัยบวกช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้ มาจากการเร่งใช้จ่ายของภาครัฐผ่านโครงการลงทุน ก่อสร้างซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ช่วยกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ เศรษฐกิจทั้งในภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง การท่องเที่ยวในจังหวัดแหล่งท่องเที่ยวส าคัญในภาคเหนือบน ยังขยายตัวดี แม้จะชะลอลงบ้างในช่วงไตรมาสที่ 4 จากปัจจัยชั่วคราวและการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมาย แต่ ก็สามารถฟื้นตัวได้เร็วในช่วงเดือนธันวาคม และภาคการผลิตเพื่อส่งออกที่ปรับดีขึ้นในช่วงปลายปี ท าให้การ บริโภคภาคเอกชนโดยรวมยังขยายตัวได้เล็กน้อย แต่ยังมีความเปราะบางโดยเฉพาะจากรายได้เกษตรกรที่ ลดลง ส าหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภาคเหนือโดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทรงตัวจากราคา น้ ามันอยู่ในระดับต่ าช่วง 3 ไตรมาสแรก อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ า แม้ปรับเพิ่มขึ้นบ้างจากปีก่อน ด้าน ยอดคงค้างเงินฝากและเงินให้สินเชื่อชะลอลงสอดคล้องกับเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ท าให้ความต้องการ สินเชื่อชะลอตัว
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
2
ตารางที่ 1 ดัชนีเครื่องชี้เศรษฐกิจที่ส าคัญของภาคเหนือ
% YoY 2557 2558 2559
2559 ครึ่งปีแรก ครึ่งปีหลัง ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน -4.3 2.3 2.4R 4.4R 0.3R 1.9R -1.2R ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน -3.2R -5.5 -4.7P -5.8R -3.6R -4.3 -3.0R การใช้จ่ายงบลงทุนของภาครัฐ 7.2 30.9 10.2 9.0 11.4 7.8 14.5 มูลค่าการส่งออกสินค้า 14.3 -0.4 -1.0 -0.4 -1.6 -4.0 0.7 มูลค่าการน าเข้าสินค้า 9.7 -4.1 21.5 18.2 24.3 23.6 25.1 รายได้เกษตรกร -13.5R -14.4R -11.4P -17.4R -5.3R -7.1R -3.5R ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม 4.4 -5.6R -8.6 -10.3 -6.7 -15.5 0.4 อัตราการเข้าพัก (ร้อยละ) 53.7 54.2R 59.8 57.8 56.1 48.7 63.5 ที่มา : รวบรวมโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ส านักงานภาคเหนือ หมายเหตุ: P ข้อมูลเบื้องต้น R มีการปรับปรุงข้อมูล แนวโนม้เศรษฐกจิภาคเหนอืป ี2560 ในปี 2560 เศรษฐกิจภาคเหนือคาดว่าปรับดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเร่ง ใช้จ่ายของภาครัฐผ่านโครงการลงทุนต่างๆ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือผู้มี รายได้น้อยคาดว่าจะทยอยออกมาต่อเนื่อง ด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวส าคัญคาดว่าขยายตัวได้ดี ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติยังนิยมเดินทางเข้ามา รวมทั้งข้อได้เปรียบจาก ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวในภาคเหนือถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น รายได้ภาคเกษตรคาดว่าปรับดีขึ้น จากด้านผลผลิตพืชส าคัญไม่กระทบแล้งรุนแรงเช่นปีก่อน ซึ่งจะส่งผลบวกต่อการผลิตของอุตสาหกรรมเกษตร แปรรูป และการบริโภคภาคเอกชนที่น่าจะปรับดีขึ้นบ้าง ขณะที่การส่งออกคาดว่าดีกว่าปีก่อน ตามการส่งออก ในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ค่อยๆ ฟื้นตัว และการส่งออกชายแดนโดยเฉพาะการส่งออกไปเมียนมาที่ยัง คาดว่าขยายตัวได้ดี
ประเด็นความเสี่ยงของเศรษฐกิจภาคเหนือ ได้แก่ (1) ก าลังซื้อภาคครัวเรือนอาจฟื้นตัวได้ช้ากว่าคาด โดยเฉพาะครัวเรือนภาคเกษตรยังมีภาระหนี้สูง และมีความเสี่ยงจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ า (2) การส่งออก อาจฟื้นตัวช้า เนื่องจากแนวโนมการขยายตัวของเศรษฐกิจคู่ค้ายังมีปจจัยเสี่ยงหลายด้าน รวมถึงการค้า ชายแดนอาจเผชิญความเข้มงวดในการส่งออกสินค้าไปจีนตอนใต้และปัญหาความไม่สงบบริเวณชายแดนเมียน มา
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
3
ภาคเกษตร
รายได้เกษตรกรในภาคเหนือปี 2559 ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 11.4 เป็นผลจาก ผลผลิตสินค้าเกษตรส าคัญลดลงร้อยละ 9.2 เพราะได้รับ ผลกระทบจากภาวะแล้งและฝนทิ้งในช่วงฤดูเพาะปลูก ท าให้ผลผลิตโดยรวม ลดลงทั้งผลผลิตต่อไร่และพื้นที่เพาะปลูก ผลผลิตพืชหลักที่ลดลง ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันส าปะหลัง ล าไย โดยเฉพาะข้าวนาปรังลดลงมาก เพราะน้ าไม่เพียงพอส าหรับการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้ง อย่างไรก็ดี การ ผลิตปศุสัตว์ของภาคเหนือเพิ่มขึ้น ตามการขยายการเลี้ยง และการปรับปรุง ระบบการเลี้ยงและผลิตให้มีมาตรฐานสูงขึ้น ส่งผลต่อการระบาดของโรค ลดลง ราคาสินค้าเกษตรส าคัญของภาคเหนือลดลงร้อยละ 2.1 จากการ ลดลงของราคาข้าวเปลือกนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันส าปะหลัง เป็น ส าคัญ โดยราคาข้าวเปลือกนาปีลดลงเพราะผลผลิตภายในประเทศและ ประเทศผู้ผลิตส าคัญในช่วงปลายปีเพิ่มขึ้นตามภัยแล้งคลี่คลาย อีกทั้งสต็อก ข้าวโลกและไทยอยู่ในระดับสูง กดดันให้ราคาข้าวลดลงทั้งราคาในตลาดโลก และราคาภายในประเทศ ส่วนราคามันส าปะหลังลดลงตามความต้องการ ของจีนซึ่งเป็นผู้น าเข้ารายใหญ่ชะลอตัว ขณะที่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แม้ผลผลิต ฤดูกาลใหม่จะลดลง แต่สต็อกข้าวโพดโลกยังเหลืออยู่มากท าให้ราคาลดลง รวมทั้งมันส าปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังได้รับผลกระทบจากการน าเข้า ข้าวสาลีที่ราคาถูกกว่ามาทดแทนในการผลิตอาหารสัตว์
ตารางที่ 2 อัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีผลผลิตภาคเกษตร และดัชนีราคาพืชผลส าคัญในภาคเหนือ
2558 2559 2559 ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ดัชนีรายได้เกษตร -14.4 -11.4 -13.5 -21.3 -7.1 -3.5 ดัชนีผลผลิต -13.4 -9.2 -9.3 -21.6 -7.3 1.3 ดัชนีราคา -1.1 -2.1 -4.6 0.3 0.2 -4.5 หมายเหตุ : R ตัวเลขแก้ไข , E ตัวเลขประมาณการ ที่มา : ค านวณจากข้อมูลส านักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รายได้ เกษตร กรปี 2559 ลดลง เพราะผลผลิตกระทบ แล้ง ขณะที่ราคาพืชส าคัญ ยังตกต่ า
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
4
แนวโน้มปี 2560 รายได้เกษตรกรในภาคเหนือคาดว่าปรับดีขึ้นจาก ด้านผลผลิตพืชเป็นส าคัญ เนื่องจากปีก่อนประสบภัยแล้งท าให้ฐานต่ า โดยเฉพาะข้าวนาปรัง มันส าปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่วนการผลิตปศุ สัตว์คาดว่าขยายตัวได้ ตามความต้องการที่มีต่อเนื่อง ส่วนราคาพืชหลัก คาดว่าใกล้เคียงปีก่อน เนื่องจากราคาข้าวซึ่งเป็นพืชส าคัญยังมีปัจจัยกดดัน จากสต็อกข้าวโลกและไทยยังเหลืออยู่มาก ตารางที่ 3 ราคาพืชผลส าคัญที่เกษตรกรขายได้ในภาคเหนือ
เครื่องชี้ หน่วย 2558 2559
2559 ครึ่งปีแรก ครึ่งปีหลัง 1 ข้าวเปลือกเจ้านาปี 5%1/ บาท/เมตริกตัน 7,614 7,595 7,588 7,602 2 ข้าวเปลือกเหนียวนาปีเมล็ดยาว1/ บาท/เมตริกตัน 11,334 11,781 - 11,781 3 ข้าวเปลือกเจ้านาปรัง 14-15%1/ บาท/เมตริกตัน 7,553 7,662 7,557 8,035 4 ข้าวโพดความชื้นไม่เกิน 14%1/ บาท/กิโลกรัม 8.0 7.1 7.6 6.7 5 อ้อยโรงงาน2/ บาท/เมตริกตัน 1,070 1,023 1,026 1,008 6 กระเทียมแห้งใหญ่คละ1/ บาท/กิโลกรัม - 41.1 41.1 - 7 หอมแดงแห้งใหญ่คละ1/ บาท/กิโลกรัม - 14.0 14.0 - 8 หอมหัวใหญ่เบอร์ 11/ บาท/กิโลกรัม 8.9 13.1 13.1 - 9 ถั่วเหลืองคละ1/ บาท/กิโลกรัม 15.0 14.3 14.6 13.8 10 ถั่วเขียวผิวมันเมล็ดใหญ่คละ1/ บาท/กิโลกรัม 32.1 31.5 32.6 29.1 11 มันส าปะหลังสดคละ1/ บาท/กิโลกรัม 2.0 1.6 1.8 1.4 12 ล าไยคละ1/ บาท/กิโลกรัม 29.8 33.7 35.0 32.5 13 ลิ้นจ่ีคละ1/ บาท/กิโลกรัม 15.3 28.2 28.2 -. 14 สัปปะรดโรงงาน1/ บาท/กิโลกรัม 9.8 10.7 10.0 11.4 15 สุกร เกิน 100 กก.1/ บาท/กิโลกรัม 64.0 65.8 66.5 65.0 16 ไก่รุ่นพันธุ์เนื้อ1/ บาท/กิโลกรัม 39.6 38.0 38.0 38.1 17 ไข่ไก่สดคละ1/ บาท/ 100 ฟอง 294.4 314.3 301.3 327.3 18 ไข่เป็ดสดคละ1/ บาท/ 100 ฟอง 324.3 343.4 343.5 343.4 ที่มา :1/ ส านักงานเศรษฐกิจการเกษตร 2/ ส านักงานบริหารอ้อยและน้ าตาลทราย
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
5
ผลกระทบของภาวะแล้งปี 2559 ต่อภาคเกษตรในภาคเหนือ
อนุสรา อนุวงค์ เศรษฐกร ส่วนเศรษฐกิจภาค ปรากฏการณ์เอลนีโญเริ่มตั้งแต่ปลายปี 2557 ต่อเนื่องจนถึงช่วงฤดูแล้งปี 2559 ท าให้ฝนตกล่าช้าและ ปริมาณน้อยกว่าค่าเฉลี่ย น้ าในเขื่อนจึงอยู่ในระดับต่ า โดยเฉพาะภาคเหนือ ณ สิ้นเดือน ก.พ. 2559 ปริมาณน้ า ในเขื่อนส าคัญของภาคเหนือ (เขื่อนภูมิพลจังหวัดตาก และเขื่อนสิริกิติ์จังหวัดอุตรดิตถ์) อยู่ที่ 9,035 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นระดับต่ าสุดในรอบ 10 ปี และต่ ากว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี (2550-2559) ซึ่งอยู่ที่ 13,178 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ท าให้ภาครัฐต้องบริหารจัดการน้ าเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน
ผลกระทบภัยแล้งต่อภาคเกษตร
ภาวะแล้งดังกล่าวกระทบต่อผลผลิตภาคเกษตรเป็นส าคัญ ผลกระทบส่วนใหญ่เกิดขึ้นมากในพื้นที่ ภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกในเขตชลประทานอาศัยน้ าจากเขื่อนหลัก พืชที่กระทบมากที่สุดคือ ข้าวนาปรัง และข้าวนาปี รวมกันมีสัดส่วนมูลค่ากว่าร้อยละ 42 ต่อผลผลิตพืชทั้งหมดในภาคเหนือ โดยข้าวนา ปรังซึ่งเริ่มปลูกช่วงปลายปี 2558 ถึงต้นปี 2559 และเก็บเกี่ยวช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ลดลงร้อยละ 26.3 จากปีก่อน (ผลผลิตต่ ากว่าปี 2557 ซึ่งถือว่าเป็นปีปรกติร้อยละ 58.6) เนื่องจากแหล่งน้ าของชลประทานไม่ เพียงพอส าหรับการปลูกพืชฤดูแล้ง ทางการจึงขอความร่วมมือให้งดการเพาะปลูก เพื่อใช้น้ าส าหรับอุปโภค บริโภคเท่านั้น ส่วนข้าวนาปีปลูกประมาณเดือนสิงหาคม และเก็บเกี่ยวสูงสุดในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ปีเดียวกัน ผลผลิตลดลงร้อยละ 12.4 จากปีก่อน (ต่ ากว่าปี 2557 ร้อยละ 16.6) เพราะฝนตกล่าช้าและปริมาณ น้อย ท าให้เพาะปลูกข้าวนาปีได้เพียงรอบเดียว และเกษตรบางส่วนปล่อยพื้นที่ว่าง รวมถึงท าให้ผลผลิตต่อไร่ ลดลง ส่วนอ้อยโรงงานมีพื้นที่ประสบความเสียหายอย่างสิ้นเชิงประมาณร้อยละ 1.4 ของพื้นที่ปลูกทั้งหมด แต่ มีเกษตรกรที่ปลูกข้าวบางส่วนหันมาปลูกอ้อยทดแทน ท าให้ผลผลิตอ้อยโรงงานโดยรวมของภาคเหนือไม่ลดลง มากนัก ส าหรับพืชอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อย เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันส าปะหลัง มีผลผลิตลดลง จากปีก่อนร้อยละ 1.4 และ 1.9 ตามล าดับ (ต่ ากว่าปี 2557 ร้อยละ 3.9 และร้อยละ 2.0) ส าหรับภาคเหนือ ตอนบนกระทบมากในผลผลิตล าไยและลิ้นจี่มีบางพื้นที่ได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง เช่น พื้นที่ปลูกล าไยใน อ าเภอจอมทองจังหวัดเชียงใหม่ อ าเภอลี้จังหวัดล าพูน ท าให้ผลผลิตล าไยและลิ้นจี่ภาคเหนือปี 2559 ลดลง ร้อยละ 21.3 และ 37.4 จากปีก่อน ตามล าดับ (ต่ ากว่าปี 2557 ร้อยละ 37.0 และ 48.1) เกษตรกรในภาคเหนือ ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะแห้งแล้งปรับตัว โดย (1) เกษตรกรผู้ปลูกข้าวบางส่วนปล่อยพื้นที่ให้ว่าง หรือ เปลี่ยนไปปลูกพืชทดแทนที่ใช้น้ าน้อยลง เช่น อ้อยโรงงาน มันส าปะหลัง พืชตระกูลถั่ว ข้าวโพด แต่ก็ท าได้ เพียงส่วนน้อย (2) เกษตรกรกลุ่มที่มีอายุน้อยเข้าไปเป็นแรงงานในภาคก่อสร้างมากขึ้น เพื่อหารายได้ในช่วงที่ ไม่สามารถปลูกพืชได้
ภาวะแล้งเริ่มคลี่คลายลงตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2559 ปริมาณน้ าฝนเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน สูงกว่า ค่าเฉลี่ย 30 ปี นอกจากนี้เกษตรกรสามารถกลับมาปลูกพืชได้ตามปกติ โดยเฉพาะข้าวนาปีซึ่งเป็นพืชส าคัญของ
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
6
ภาคเหนือ ส่งผลให้ผลผลิตข้าวนาปีภาคเหนือปี 2559 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 6.2 จาก 6.7 ล้านตัน เป็น 7.1 ล้าน ตัน แม้ผลผลิตปรับดีขึ้น แต่ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปีเฉลี่ยเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2559 ซึ่งเป็นช่วงเก็บ เกี่ยวข้าวมากที่สุดกลับลดลงมาอยู่ที่ 7,356 บาทต่อตัน ต่ าสุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2551 ดังนั้นรายได้ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวซึ่งเป็นรายได้หลักของเกษตรกรในภาคเหนือจึงอยู่ในระดับต่ าต่อเนื่อง
มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ
ส าหรับมาตรการภาครัฐเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ส าคัญในปี 2559 ได้แก่ โครงการสนับสนุนเงิน ช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวรายย่อยปีการผลิต 2559/60 โดยสนับสนุนเงินช่วยเหลือ เกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินรายละ 10 ไร่ วงเงินช่วยเหลือรวม 37,000 ล้านบาท และโครงการสินเชื่อ ชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/60 จากการลงพื้นที่ส ารวจภาคเหนือตอนล่างพบว่า โครงการ ช่วยเหลือต้นทุนการผลิตสามารถช่วยเหลือเกษตรกรด้านสภาพคล่องได้บ้าง ในขณะที่โครงการสินเชื่อชะลอ การขายข้าวเปลือกนาปีมีผู้เข้าร่วมไม่มากนัก เนื่องจากเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างไม่มีลานตากข้าว และยุ้งฉางเป็นของตนเอง จึงต้องน าข้าวไปขายโรงสีและได้รับราคาต่ า ส่วนมาตรการพักช าระหนี้ของธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีทั้งการพักช าระหนี้ผู้ปลูกข้าว และมันส าปะหลัง มีผู้เข้าร่วม โครงการจ านวนมากกว่าร้อยละ 15 ของลูกค้า ธ.ก.ส. ภาคเหนือตอนล่าง นอกจากนี้เกษตรกรภาคเหนือ ตอนล่างยังมีภาระหนี้คงค้างเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2558
โดยสรุปผลของเอลนีโญตั้งแต่ปี 2557–2559 ส่งผลกระทบมากต่อเกษตรกรในภาคเหนือตอนล่าง นอกจากนี้ ช่วงเวลาดังกล่าวผลผลิตพืชส าคัญยังประสบปัญหาราคาตกต่ ามาต่อเนื่อง ท าให้เกษตรกรมีรายได้ ไม่พอช าระคืนหนี้ ในทางตรงข้ามกลับมีภาระหนี้เพิ่มเพราะกู้เพื่อลงทุนท าเกษตรรอบใหม่อีก สอดคล้องกับ ข้อมูลที่ได้รับจากการส ารวจพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างพบว่าก าลังซื้อครัวเรือนเกษตรลดลงมาก และต้องปรับลด ค่าใช้จ่ายที่ไม่จ าเป็น รวมถึงเลือกใช้สินค้าราคาถูกและคุณภาพลดลง ส่วนแนวโน้มคาดว่าก าลังซื้อครัวเรือน เกษตรจะฟื้นตัวช้า เพราะยังมีความเสี่ยงด้านราคาอยู่ รวมถึงภาระหนี้สินคงค้างท าให้ครัวเรือนเกษตร ระมัดระวังการใช้จ่ายต่อไป ซึ่งเป็นปัจจัยฉุดรั้งการฟื้นตัวของการบริโภคในภาพรวม
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
7
ภาคอุตสาหกรรม
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ปี 2559 หดตัวร้อยละ 8.6 จากปีก่อน โดยหดตัวมากในช่วงตั้งแต่ต้นปีถึงไตรมาส 3 ในอุตสาหกรรมผลิตเพื่อ ส่งออก โดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เลนส์ และส่วนประกอบของ ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ รวมถึงสิ่งทอและเสื้อผ้าส าเร็จรูป ซง่ึได้รับผลจากการชะลอ ตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า และการสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอาหาร ทั้งอุตสาหกรรมส่งออกผักผลไม้แปรรูป โรงสีข้าว และโรงงานน้ าตาล ได้รับผลกระทบจากภาวะแล้งในช่วงไตรมาส 1-2 ท าให้วัตถุดิบลดลง อย่างไรก็ดี ช่วงไตรมาส 4 ภาพรวม ภาคอุตสาหกรรมมีทิศทางปรับดีขึ้น ทั้งจากภาวะแล้งคลี่คลาย และการ ส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับดีขึ้นบ้าง ตามการฟื้นตัวของประเทศคู่ค้า การเปลี่ยนแปลงในหมวดการผลิตส าคัญของดัชนีอุตสาหกรรม มีรายละเอียดดังนี้ อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ขยายตัวร้อยละ 18.5 จากปีก่อน ตามความ ต้องการบริโภคและการส่งออกที่มีต่อเนื่อง โดยการผลิตเร่งตัวขึ้นช่วงไตร มาส 2 เพื่อรองรับการจ าหน่ายในช่วงฤดูร้อน ประกอบกับปีก่อนฐานต่ า (การผลิตลดลงหลังเร่งผลิตก่อนขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ในเดือน มีนาคม 2558) พอถึงช่วงไตรมาส 3 เครื่องชี้การผลิตเครื่องดื่มชะลอลง แต่ เป็นผลจากการผลิตเบียร์ปีก่อนฐานสูง (มีการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์แบบ ใหม่) อย่างไรก็ดี การผลิตเครื่องดื่มค่อยๆ กลับมาขยายตัวเพื่อรองรับการ จ าหน่ายในช่วงสิ้นปี อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หดตัวร้อยละ 27.7 จากปีก่อน หดตัวต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 1-3 ในสินค้าประเภทชิ้นส่วนประเภท แผงวงจรรวม ตัวเก็บประจุไฟฟ้า และเครื่องตัดต่อวงจรไฟฟ้า จากอุปสงค์ ประเทศคู่ค้าในอาเซียนลดลง ธุรกิจบางส่วนสูญเสียความสามารถในการ แข่งขันด้านราคา บางส่วนเป็นสินค้ารุ่นเก่าที่แนวโน้มความต้องการลดลง อย่างไรก็ดี หลายบริษัทปรับตัวโดยบริษัทแม่ในญี่ปุ่นหาผลิตภัณฑ์อื่นมาให้ ผลิตแทน ปรับสายการผลิตให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีและความต้องการ อาทิ ผลิตชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ยานยนต์ที่ทันสมัยขึ้น รวมถึง ปรับมาหาลูกค้าในประเทศมากขึ้น ส่งผลให้การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ค่อยๆ ปรับดีขึ้นบ้างในช่วงไตรมาส 4
ผลผลิต อุตสาหกรรมปี 255 9 ลดลงในอุตสาหกรรม เกษตร และการผลิตเพื่อ ส่งออก แต่ สามารถ ปรับดี ขึ้นในช่วงปลายปี
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
8
ส าหรับภาวะแล้งช่วงเดือนเมษายน ส่งผลต่อการผลิตของโรงงาน ในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือจังหวัดล าพูนบ้าง เนื่องจากไม่สามารถสูบน้ า แม่กวง ซึ่งเป็นแหล่งน้ าดิบหลักมาผลิตน้ าประปาได้ กนอ. แก้ไขปัญหาโดย ขุดเจาะบ่อบาดาล ซื้อน้ าดิบจากบ่อน้ าเอกชนมาใช้ และน าน้ าเสียมาบ าบัดใช้ ใหม่ ส่งผลให้ต้องปรับเพิ่มค่าน้ าประปาช่วงเดือนมีนาคมถึงกรกฎาคม ซึ่ง กระทบต้นทุนการผลิตของโรงงานบ้าง แต่เป็นเพียงช่วงสั้นๆ ส าหรับอุตสาหกรรมอาหาร ลดลงร้อยละ 6.8 จากปีก่อน โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 2 ได้รับผลกระทบจากภาวะแล้ง ท าให้ผลผลิตพืชที่ ใช้เป็นวัตถุดิบ เช่น ข้าวโพดหวาน และถั่วแระ ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ของโรงงานและคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้ราคารับซื้อสูงขึ้นและ กระทบต้นทุนการผลิต โรงงานหลายแห่งปรับตัว อาทิ รับซื้อผลผลิตจาก จังหวัดอื่นๆ ที่ไกลออกไป หลายรายปรับลดการผลิตให้สอดคล้องกับ วัตถุดิบที่หาได้ โดยเฉพาะโรงสีข้าวผลผลิตลดลงมาก อย่างไรก็ดี ภาพรวม อุตสาหกรรมอาหารปรับดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 ตามภาวะแล้งคลี่คลายท าให้ วัตถุดิบเพิ่มขึ้น แต่ในไตรมาส 4 เครื่องชี้ชะลอลงบ้าง แต่เป็นเพียงปัจจัย ชั่วคราว เนื่องจากโรงงานน้ าตาลบางแห่งเลื่อนก าหนดเปิดหีบอ้อยออกไป อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้แก่ อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าส าเร็จรูป หดตัวตามวัฏจักรธุรกิจที่ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ อย่างไรก็ดี บริษัท ที่ผลิตสินค้าเฉพาะด้าน อาทิ ชุดกีฬาทางน้ า บริษัทที่น านวัตกรรมใหม่มาใช้ ในการผลิต หรือเพิ่มช่องจ าหน่ายผ่าน e-commerce ยังพอไปได้ แต่อยู่ใน วงจ ากัด อุตสาหกรรมเซรามิกประเภทเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ลดลงจาก การชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้า โดยเฉพาะในกลุ่มยุโรปและอเมริกาใต้ อย่างไรก็ดี การผลิตปรับดีขึ้นบ้างในช่วงปลายปี ตามค าสั่งซื้อเพื่อจ าหน่าย ในช่วงคริสมาสต์และปีใหม่ อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องเพชรพลอย ภาพรวมหดตัวตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ท าให้ผู้บริโภคลดการซื้อ สินค้าฟุ่มเฟือย อย่างไรก็ดี มีธุรกิจเครื่องประดับรายใหญ่มาเปิดโรงงานใน จังหวัดล าพูน และค่อยๆ เริ่มจ้างแรงงานในพื้นที่ ส่วนอุตสาหกรรม ปูนซีเมนต์ การผลิตลดลงตามการก่อสร้างภาคเอกชนที่ยังไม่ฟื้นตัว
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
9
แนวโน้มปี 2560 คาดว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นจาก ปีก่อน การผลิตเพื่อส่งออกฟื้นตัวตามเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ประกอบ กบัโรงงานได้ปรับสายการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมาก ขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มชิ้นส่วนในโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ยานยนต์ ส าหรับการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าเกษตร เช่น ผักและผลไม้แปรรูป การ สีข้าว คาดว่าดีกว่าปีก่อนจากภาวะแล้งคลี่คลาย ตารางที่ 4 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมภาคเหนือ %YoY น้ าหนัก ปี 2550 2558 2559 2559 ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 อาหาร 18.9 -11.5 -6.8 -7.3 -29.4 12.9 -2.3 เครื่องดื่ม 25.5 19.1 18.5 19.2 66.1 -9.9 8.2 ยาสูบ 1.1 35.2 -6.2 57.4 14.8 -9.5 -32.2 สิ่งทอและเสื้อผ้าส าเร็จรูป 10.2 -21.2 -13.9 -2.7 -62.4 -15.8 30.2 เครื่องหนัง 1.2 -65.6 -22.5 -43.5 -14.5 -45.6 47.7 อโลหะ 8.0 1.7 -4.0 -2.6 -2.1 -6.7 -4.4 โลหะ 1.3 12.2 2.0 1.9 15.8 -9.6 2.6 ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 14.0 -18.5 -27.7 -37.9 -37.2 -27.1 -0.5 เลนส์และส่วนประกอบ HDD 11.7 -3.8 -28.5 -22.8 -43.0 -38.4 -3.4 อื่นๆ 8.1 9.2 -27.0 -5.4 -39.7 -25.7 -31.9 รวม 100.0 -5.6 -8.6 -6.9 -15.5 -15.5 0.4 ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย ส านักงานภาคเหนือ
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
10
การท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวปี 2559 ขยายตัวดี ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติและ นักท่องเที่ยวไทย แม้ว่าช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนชะลอลง จากปัจจัย ชั่วคราวและบางส่วนจากมาตรการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมาย ท าให้ นักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นสัดส่วนส าคัญลดลง ประกอบกับการเลื่อนจัดประชุม สัมมนาและยกเลิกกิจกรรมรื่นเริงของชาวไทยออกไป อย่างไรก็ตาม การ ท่องเที่ยวสามารถกลับมาขยายตัวได้ในเดือนธันวาคม โดยนักท่องเที่ยวจีน กลับมาเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี และอาเซียน เข้ามาท่องเที่ยวภาคเหนือเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการจัดประชุม สัมมนามากขึ้นในช่วงปลายปี และช่วงวันหยุดยาวในเดือนธันวาคมมี นักท่องเที่ยวไทยเดินทางมาภาคเหนือมากขึ้น ส่งผลให้การท่องเที่ยวกลับมา ฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด รูปภาพที่ 1 จ านวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานในภาคเหนือ
เครื่องชี้ส าคัญที่สะท้อนการขยายตัวของภาคท่องเที่ยว ได้แก่ จ านวน ผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานในภาคเหนือปี 2559 มีจ านวนรวม 12.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5 จากปีก่อน โดยเฉพาะท่าอากาศยานเชียงใหม่ อัตราการ เข้าพักของโรงแรมเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 57.8 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 57.6 ในปีก่อน ราคาห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ 1,601.5 บาท ต่อห้องต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ราคา เฉลี่ย 1,502.3 บาท รวมทั้งการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดโรงแรมและ ภัตตาคารเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9
การท่องเที่ยวปี 2559 ขยายตัว แม้ไตรมาส 4 จะชะลอลงบ้าง จากปัจจัยชั่วคราว แต่กลับมา ฟื้นตั วได้เร็วในช่วงปลายปี
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
11
รูปภาพที่ 2 อัตราการเข้าพักโรงแรมในภาคเหนือ
รปูภาพที่ 3 การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม
แนวโน้มปี 2560 การฟื้นตัวที่เร็วกว่าคาดในช่วงปลายปี 2559 ท า ให้คาดว่าการท่องเที่ยวจะขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนมีแนวโน้มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว เพิ่มขึ้น จากการส ารวจของเว็บไซต์บริการท่องเที่ยวชั้นน าของจีนพบว่า ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอันดับ 1 ด้าน นักท่องเที่ยวยุโรปและอเมริกาคาดว่าเพิ่มขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
12
เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอาเซียนมีแนวโน้มเติบโต ทั้งมาเลเซีย และ สิงคโปร์ เป็นต้น รวมทั้งนักท่องเที่ยวไทยยังคงนิยมมาเที่ยวภาคเหนือ ขณะที่ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวในภาคเหนือถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับแหล่ง ท่องเที่ยวอื่น ตารางที่ 5 เครื่องชี้ภาคบริการที่ส าคัญ รายการ หน่วย 2556 2557 2558 2559 จ านวนผู้โดยสารผา่นท่าอากาศยาน พันคน 6,899 8,660 10,899 12,372 %YoY (18.6) (25.5) (25.8) (13.5) จ านวนผู้โดยสารต่างชาติผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง การท่าอากาศยานเชียงใหม่ พันคน 999.6 1,505.9 2,142.7 2,303.8 %YoY (48.8) (50.7) (42.3) (7.5) อัตราการเข้าพัก (Hotel Occupancy Rate) ร้อยละ 54.9 53.7 57.6 59.8 %YoY (4.7) (-1.2) (3.9) (2.2) ราคาห้องพักเฉลี่ย (Hotel Average Room Rate) บาท 1,459.6 1,471.0 1,502.3 1,601.5 %YoY (9.1) (0.8) (2.1) (6.6) ภาษีมลูค่าเพมิ่ประเภทโรงแรมและภัตตาคาร ล้านบาท 501.2 542.1 623.8 673.1 %YoY (17.1) (8.2) (15.1) (7.9) ที่มา : บมจ.การท่าอากาศยานไทย ด่านตรวจคนเข้าเมืองการท่าอากาศยานเชยีงใหม่ ส ารวจโดย ธปท.สภน. และกรมสรรพากร หมายเหตุ ตัวเลขใน ( ) เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน หน่วยเป็นร้อยละ
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
13
การปรับตัวของธุรกิจท่องเที่ยวภาคเหนือหลังการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมาย
สุจิตร์ แก้วน่าน เศรษฐกรอาวุโส ส่วนเศรษฐกิจภาค หลายปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยหลากหลายรูปแบบ ทั้ง ท่องเที่ยวแบบอิสระ หรือกลุ่ม FIT (Free Individual Traveler) และแบบซื้อ Package Tour จากบริษัท ท่องเที่ยวในจีน หนึ่งในรูปแบบทัวร์ที่เป็นที่รู้จักกัน คือ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ซึ่งจะมีรูปแบบที่แตกต่างจากทัวร์ ทั่วไป คือ นักท่องเที่ยวจะซื้อ Package Tour จากบริษัททัวร์ประเทศต้นทางด้วยราคาที่ต่ ามาก และบริษัททัวร์ต้น ทางส่วนใหญ่จะไม่จ่ายค่า Tour fare ท าให้บริษัททัวร์ประเทศปลายทางต้องหารายได้โดยน ากลุ่มนักท่องเที่ยวไป ซื้อสินค้าและบริการในราคาสูงกว่าปกติมาก นักท่องเที่ยวที่มากับทัวร์ศูนย์เหรียญมักถูกน าไปพักโรงแรมที่ห่างไกล จากแหล่งท่องเที่ยว และถูกก าหนดโปรแกรมท่องเที่ยวให้ไปเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวและร้านค้าเครือข่ายที่สามารถ เรียก commission ได้สูง รวมถึงจะจัดบริการเสริม (option tour) ให้ในราคาแพง เช่น พาไปดูโชว์ต่างๆ และ ซื้อสินค้าอัญมณีในราคาที่สูงมาก ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนร้องเรียนกับทางการจีนบ่อยครั้ง กระทบต่อชื่อเสียง และภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ทางการไทยจึงด าเนินมาตรการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายอย่าง จริงจังในช่วงเดือนกันยายน 2559
การปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมาย ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมท่องเที่ยวภาคเหนือมากนัก เนื่องจาก นักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวในภาคเหนือส่วนใหญ่เป็นแบบ FIT โดยมีสัดส่วนร้อยละ 65 - 75 อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนและธุรกิจท่องเที่ยวในภาคเหนือมีการปรับตัว ดังนี้
1. การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระยะสั้น ท าให้ราคา Package tour มาไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 - 50 เช่น บริษัททัวร์ในประเทศจีน เพิ่มราคาขายทัวร์จาก 3,000 หยวน เป็น 4,500 หยวนต่อคน เนื่องจากบริษัททัวร์ในไทย ไม่สามารถพานักท่องเที่ยวไปจับจ่ายใช้สอยในสถานที่เครือข่ายเพื่อรับค่า commission จึงต้องปรับเพิ่มราคาเพื่อ ชดเชยรายได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการในไทยชะลอธุรกิจ แม้ผู้ประกอบการในไทยจะไม่ได้อยู่ในเครือข่ายการท า ธุรกิจทัวร์ผิดกฎหมาย แต่เกรงว่าหากท าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทัวร์จีนอาจถูกข้อกล่าวหาในความผิดข้อหาอั่งยี่ จึงไม่ กล้ารับลูกค้านักท่องเที่ยวจีนในช่วงแรกของมาตรการปราบปรามฯ
2. นักท่องเที่ยวจีนยอมรับราคาที่สูงขึ้นและผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นมากขึ้น โดยผู้ประกอบการทัวร์ จีนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นจากความชัดเจนในมาตรการปราบปรามฯ หลังจากคณะของรองนายกรัฐมนตรีไทย เดินทางไปหารือกับผู้น าประเทศจีนในเดือนธันวาคม 2559 เพื่อท าความเข้าใจในเรื่องที่ทางการไทยด าเนินการกับ ทัวร์ผิดกฎหมาย และเชิญชวนชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวไทย อีกทั้งทางการไทยให้ข่าวว่าจะไม่มีการจับกุม เพิ่มเติม ท าให้บริษัททัวร์ในไทยและในจีนมีความเชื่อมั่นในการด าเนินธุรกิจมากขึ้น ทางด้านนักท่องเที่ยวจีนแบบ กรุ๊ปทัวร์ในภาคเหนือ (มีสัดส่วนร้อยละ 25 - 35 ของนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมด) เริ่มเข้าใจและปรับตัวต่อราคาที่ สูงขึ้นได้ โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 มีนักท่องเที่ยวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์ที่มีคุณภาพมากขึ้น สะท้อนจากการจอง ซื้อทัวร์และเข้าพักในโรงแรมระดับ 4-5 ดาวเพิ่มขึ้น ขณะที่ Package Tour ราคาถูกที่เข้าพักโรงแรม 1-2 ดาว
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
14
ลดลงมาก อีกทั้งยังกระจายการเดินทางมาจากเมืองต่างๆ มากขึ้น และจ านวนการร้องเรียนต่อหน่วยงานจีนลดลง มาก นอกจากนี้ บริษัททัวร์ในไทยยังได้ปรับปรุงบริการโดยน านักท่องเที่ยวจีนไปแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และจับจ่าย ใช้สอยตามความสมัครใจของนักท่องเที่ยว
แนวโน้มการท่องเที่ยวของภาคเหนือในระยะต่อไป ในปี 2560 มาตรการของภาครัฐและ และปัจจัยต่างๆ จะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวจีนทั้งแบบ FIT และกรุ๊ปทัวร์เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10-20 ดังนี้ มาตรการยกเว้น ค่าธรรมเนียมวีซ่า และลดค่าธรรมเนียม Visa on Arrival ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2559 - 31 ส.ค 2560 จูงใจให้ นักท่องเที่ยวจีนตัดสินใจเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้น ประกอบกับได้รับผลจากที่รัฐบาลจีนประกาศให้ชาวจีนงดเดินทาง ไปเกาหลีใต้ เนื่องจากไม่พอใจที่เกาหลีใต้ร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาติดตั้งระบบสกัดขีปนาวุธ “THAAD” โดย สนับสนุนให้ชาวจีนเดินทางมาไทยแทน นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจีนแบบ FIT มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ กระแสจาก social media ความสะดวกในการเดินทาง การพัฒนา Application และระบบช าระเงิน อิเล็กทรอนิกส์ การเปิดเที่ยวบินที่บินตรงและเที่ยวบิน Charter flight จากเมืองต่างๆ ในประเทศจีนมาเชียงใหม่ เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ทางการจีนยังได้ประมาณการจ านวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางไปต่างประเทศในปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านคน
บทเรียนจากการปรับตัวเพื่อรับผลกระทบในครั้งนี้
1. การปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมายก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้างต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้อง การชี้แจงท าความ เข้าใจเป็นสิ่งที่จ าเป็นเร่งด่วนในการด าเนินการควบคู่กับการปราบปราม เพื่อบรรเทาผลกระทบและสร้างความ เชื่อมั่นให้กลับคืนมาสู่การประกอบธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป็นฐานรายได้ส าคัญของประเทศ
2. ผู้ประกอบการที่มีความพร้อมในการปรับตัวสร้างความสมดุลและกระจายความเสี่ยงในการรับลูกค้า จากกรุ๊ปทัวร์ราคาถูก เป็นกรุ๊ปทัวร์ที่มีคุณภาพสูงขึ้น หรือกรุ๊ปทัวร์แบบ Incentive ย่อมได้รับผลกระทบน้อยกว่า ผู้ประกอบการที่พึ่งพากล่มลูกค้าเพียงประเภทเดียว
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
15
ภาคการค้า
ภาวะการค้าปลีกปี 2559 ดัชนีค้าปลีกเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 3.0 แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขยายฐานการจัดเก็บภาษี โดยในช่วงไตรมาส 4 ดัชนีค้าปลีกชะลอลงเล็กน้อยจากปัจจัยชั่วคราว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผู้บริโภค ลดการสังสรรค์และงานรื่นเริง เมื่อพิจารณาในหมวดส าคัญพบว่า ยอดขาย ห้างสรรพสินค้าขยายตัว โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบนได้รับอานิสงส์จาก ภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ยอดขายสินค้าบริโภคทั่วไปขยายตัวได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์แผ่วลงมากในช่วงปลายปี ตามก าลังซื้อที่ลดลง และผู้บริโภคส่วนหนึ่งชะลอการตัดสินใจเพื่อรอรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2560 ส่วนยอดขายปลีกน้ ามันเชื้อเพลิงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากราคาขาย ปลีกน้ ามันในประเทศที่ปรับสูงขึ้น รูปภาพที่ 4 ดัชนีค้าปลีก
ส่วน ภาวะการค้าส่ง ขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 11.4 ส่วนส าคัญเป็น หมวดการขายส่งสินค้าทั่วไป และการขายส่งอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่การขายส่งเชื้อเพลิงเหลว และการขายส่งวัสดุก่อสร้างหดตัวเล็กน้อย
ภาคการค้า ปี 2559 แผ่วลง ในไตรมาส 4 จากปัจจัย ชั่วคราว
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
16
รูปภาพที่ 5 ดัชนีค้าส่ง
ตารางที่ 6 ดัชนีค้าส่งค้าปลีก
2557 2558 2559 ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4P ดัชนีค้าส่ง 236.1 259.0 276.8 292.1 272.9 297.9 % YoY (3.5) (9.7) (3.2) (12.7) (10.1) (14.1) ดัชนีค้าปลีก 186.7 183.9 196.7 195.4 183.0 183.9 % YoY (-10.7) (-1.5) (4.0) (4.2) (4.9) (-0.3) ที่มา : ข้อมูลจากกรมสรรพากร ค านวณโดยธนาคารแห่งประเทศไทย หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้นตัวเลขใน ( ) เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน หน่วยเป็นร้อยละ
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
17
การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน
ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนปี 2559 ขยายตัวจากปีก่อนร้อย ละ 2.4 แต่ในหลายเครื่องชี้ยังมีความเปราะบาง โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 3-4 การใช้จ่ายภาคเอกชนชะลอต่อเนื่อง
รูปภาพที่ 6 ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน
การอุปโภคบริโภคสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจ าวัน ดัชนีสินค้าหมุนเวียน เร็ว (Fast Moving Consumer Goods) ลดลงร้อยละ 3.5 ลดลงต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มสินค้าจ าเป็นและไม่จ าเป็น สะท้อนก าลังซื้อครัวเรือนที่เปราะบาง ประกอบกับสินค้าหมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบลดลงมากในไตร มาส 3 และ 4 ตามการลดกิจกรรมสังสรรค์และงานรื่นเริง ด้านการบริโภคสินค้าจ าเป็นในหมวดน้ ามันเชื้อเพลิงทรงตัว ช่วง ไตรมาส 1-2 ยอดจ าหน่ายน้ ามันเชื้อเพลิงขยายตัวดี ตามราคาน้ ามันขาย ปลีกในประเทศอยู่ในระดับต่ า ขณะที่ไตรมาส 3-4 ยอดจ าหน่ายน้ ามัน เชื้อเพลิงหดตัว เพราะราคาน้ ามันขายปลีกและราคาในตลาดโลกปรับสูงขึ้น หลังจากประเทศสมาชิก OPEC สามารถลดก าลังผลิตได้มากกว่าคาด ส าหรับปริมาณการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเพิ่มขึ้นตามการใช้เครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอากาศร้อนกว่าปีก่อน ส าหรับการบริโภคสินค้าคงทน ยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วน บุคคลขยายตัวเล็กน้อยร้อยละ 3.8 จากปีก่อน โดยขยายตัวในช่วงไตรมาส
การอุปโภคบริโภคภาค เอกชน ปี 2559 ยัง มีความ เปราะบาง และชะลอตัวในช่วงครึ่งหลัง ของปี
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
18
1-3 จากการออกรถยนต์รุ่นใหม่ซึ่งชะลอมาจากปีกอ่น เพื่อปรับเปลี่ยนอัตรา การค านวณภาษีสรรพสามิตแบบใหม่ตามปริมาณการปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนไตรมาส 4 เริ่มหดตัว ส่วนหนึ่งเกิดจากผู้บริโภค ชะลอการตัดสินใจ เพราะบริษัทผู้ผลิตรถยนต์มีก าหนดเปิดตัวรถยนต์รุ่น ใหม่ในปี 2560 ด้านยอดจดทะเบียนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ลดลงร้อยละ 7.5 จากปีก่อน ตามความต้องการของภาคเกษตรและภาคธุรกิจที่ลดลง ส่วนยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ขยายตัวได้ร้อยละ 3.4 ตามการเร่งท า กิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทผู้ผลิต รูปภาพที่ 7 ปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์ในเขตภาคเหนือ
แนวโน้มปี 2560 คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนจะปรับตัวดีขึ้นอย่าง ค่อยเป็นค่อยไป โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากก าลังซื้อภาคเกษตรที่น่าจะดีกว่า ปีก่อน รายได้จากภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าดีต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มก าลังซื้อ ในจังหวัดท่องเที่ยวส าคัญ การปรับเพิ่มเล็กน้อยของค่าจ้างขั้นต่ า และ รายได้ของแรงงานในภาคการผลิตเพื่อส่งออกที่คาดว่าดีกว่าปีก่อนตาม แนวโน้มการส่งออกที่ดีขึ้น มาตรการภาครัฐที่คาดว่าจะออกมาตรการ กระตุ้นการบริโภคเป็นบางช่วง มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย รวมทั้ง การเร่งใช้จ่ายตามโครงการต่างๆ เพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมาก ขึ้น
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
19
ตารางที่ 7 เครื่องชี้การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน เครื่องชี้ หน่วย 2558 2559 ภาษีมลูค่าเพมิ่ ณ ราคาคงที่1/ ล้านบาท 13,831 14,764 (10.9) (6.7) การใช้ไฟฟ้าของครัวเรือน2/ ล้านกโิลวัตต์/ชม. 5,244 5,559.9 (6.1) (6.0) รถยนต์จดทะเบียน 3/ คัน 93,507 92,576 (-10.8) (-1.0) - รถยนต์นั่งส่วนบุคคล คัน 53,739 55,797 (-13.9) (3.8) - รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (ปิกอัพ) คัน 39,768 36,779 (-6.1) (-7.5) - รถจักรยานยนต์จดทะเบียน คัน 271,629 280,749 (-2.7) (3.4) ที่มา : 1/ส านักเทคโนโลยีสารสนเทศกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง 2/ กองเศรษฐกิจการไฟฟ้า ฝ่ายเศรษฐกิจและงบประมาณ การไฟฟ้าส่วนภมูิภาค 3/ ส านักงานขนส่งจงัหวัดในภาคเหนือ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม หมายเหตุ : ตัวเลขใน ( ) เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน หน่วยเป็นร้อยละ
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
20
การลงทุนภาคเอกชน
ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนปี 2559 ลดลงร้อยละ 4.7 จากปีก่อน ซบเซาต่อเนื่องเป็นปีที่สอง สะท้อนจากเครื่องชี้การลงทุนภาคก่อสร้างหดตัว ตลอดทั้งปี แม้ภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์โดยลด ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน/จ านองอสังหาริมทรัพย์ โดยสิ้นสุดในช่วง เดือนเมษายน ช่วยให้เกิดการเร่งโอนกรรมสิทธิ์มากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถ สร้างอุปสงค์ใหม่ได้มากนัก ผู้บริโภคส่วนหนึ่งชะลอการตัดสินใจเพราะ ความเชื่อมั่นต่อรายได้ในอนาคตลดลง อีกทั้งสถาบันการเงินเข้มงวดการให้ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยยังเป็นปัจจัยกดดันส าคัญ ด้านการเข้ามาซื้อ คอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนช่วยระบายสต็อกคงค้างได้ บ้าง ในปีนี้โครงการก่อสร้างใหม่ๆ ทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบและอาคารชุดมี จ านวนลดลงจากปีก่อน สะท้อนจากพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้าง และยอด จ าหน่ายวัสดุก่อสร้างลดลง อย่างไรก็ดี การก่อสร้างที่พักแรมโดยเฉพาะใน จังหวัดเชียงใหม่ขยายตัวตามภาวะการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มดี ส าหรับการลงทุนภาคการผลิตหดตัวเช่นกัน โดยในครึ่งปีแรก ผู้ประกอบการมีก าลังการผลิตเหลือจากค าสั่งซื้อที่ลดลง ส่งผลให้ไม่ต้องการ ลงทุนเพิ่ม ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังปรับดีขึ้น ผู้ประกอบการน าเข้าเครื่องจักร/ ชิ้นส่วนเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนยังไม่กระจายตัวมากนัก โดย กระจุกตัวในอุตสาหกรรมผลิตเพื่อส่งออก เช่น การผลิตชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ การแปรรูปผลผลิตเกษตร เพื่อส่งออก และการผลิตน้ าตาล การเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบส าคัญในดัชนีการลงทุน ภาคเอกชน มีรายละเอียดดังนี้ พื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาล ลดลงร้อยละ 11.9 จากปี ก่อน การขออนุญาตก่อสร้างลดลงเกือบตลอดทั้งปี ตามภาวะภาคอสังหา ริมทรัพย์ที่ซบเซา ทั้งการก่อสร้างที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ และโรงงาน หดตัวเกือบทุกจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ และพิษณุโลก ยกเว้นจังหวัดก าแพงเพชร และตาก ที่พื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างขยายตัวจาก การก่อสร้างอาคารพาณิชย์เป็นส าคัญ
การลงทุนภาคเอกชนปี 2559 หดตัวในภาค การก่อสร้าง ส่วนภาคการผลิต ปรับดีขึ้น ในบาง อุ ตสาหกรรม
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
21
รายได้ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนที่ดิน
ลดลงร้อยละ 1.4 จากปี ก่อน แม้ว่าภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยลด ค่าธรรมเนียมการโอน/จ านองที่ดินเหลือร้อยละ 0.01 มีก าหนดสิ้นสุด ในช่วงเดือนเมษายน ช่วยเร่งให้เกิดการโอนกรรมสิทธิ์และจดจ านองมาก ขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ้นสุดมาตรการยอดการจดทะเบียนที่ดินกลับมาซบ เซาเช่นเดิม โดยเฉพาะในจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง เช่น นครสวรรค์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ขณะที่ภาคเหนือตอนบนการโอนอสังหาริมทรัพย์ยัง ขยายตัวในจังหวัดส าคัญ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการโอน ห้องชุดที่หลายโครงการสร้างเสร็จในปีนี้ มูลค่าน าเข้าสินค้าทุน ประเภทเครื่องจักรและอุปกรณ์ผ่านด่าน ศุลกากรในภาคเหนือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 จากปีก่อน โดยหดตัวมากในช่วง ครึ่งปีแรก ตามค าสั่งซื้อสินค้าที่ชะลอลงส่งผลให้ภาคการผลิตมีก าลังการ ผลิตเหลือมาก อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลังการน าเข้าสินค้าทุนเริ่ม กระเตื้องขึ้น แต่กระจุกตัวในบางอุตสาหกรรม ได้แก่ การผลิตชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ และการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ปริมาณจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์ ลดลงร้อยละ 7.5 จากปี ก่อน โดยทรงตัวในครึ่งปีแรก แม้มีรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดแต่ยอดขาย ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก ส่วนครึ่งปีหลังยอดจดทะเบียนลดลงมาก เพราะก าลัง ซื้อของภาคครัวเรือนลดลง และภาคธุรกิจยังไม่มั่นใจลงทุนเพิ่ม รวมทั้งบาง เดือนเป็นเพราะฐานสูงในปีก่อน โดยมีการเร่งซื้อก่อนปรับขึ้นภาษี สรรพสามิตรถยนต์ในต้นปี 2559 ปริมาณการจ าหน่ายวัสดุก่อสร้าง ลดลงร้อยละ 4.1 จากปีก่อน โดยลดลงตลอดทั้งปี ตามการก่อสร้างภาคเอกชนที่หดตัวเป็นส าคัญ สะท้อนจากจ านวนการเปิดตัวโครงการหมู่บ้านจัดสรรและอาคารชุดลดลง จากปีก่อน สอดคล้องกับยอดสินเชื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์และเพื่อที่อยู่ อาศัยของธนาคารพาณิชย์หดตัวจากปีก่อน แนวโน้มปี 2560 คาดว่าทยอยฟื้นตัวจากปีก่อน โดยการลงทุนภาค การผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สะท้อนจากเครื่องชี้มูลค่าการน าเข้าเครื่องจักร และชิ้นส่วนที่ขยายตัวต่อเนื่อง ผู้ประกอบการมีการขยาย/ปรับเปลี่ยน สายการผลิต อย่างไรก็ตาม การลงทุนกระจุกตัวในบางอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการผลิตเพื่อส่งออก เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
22
และเลนส์ เป็นต้น ส่วนการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์คาดว่าปี 2560 จะ ปรับดีขึ้น ตามการก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบโดยเฉพาะในหัวเมืองหลัก เนื่องจากยังมีความต้องการต่อเนื่องและอุปทานคงเหลือค่อยทยอยปรับ ลดลง ประกอบกับมีการพัฒนา/ขยายสาธารณูปโภคพื้นฐาน อาทิ ถนน การขนส่งระบบราง ส่งผลให้สังคมเมืองขยายตัว
ตารางที่ 8 เครื่องชี้ภาวะการลงทุนภาคเอกชนของภาคเหนือ เครื่องชี้ หน่วย 2556 2557 2558 2559P พื้นที่ก่อสร้างที่ได้รับอนุญาตในเขตเทศบาล 1/ พันตาราง เมตร 1,676.1 (-17.3) 1,615.0 (-3.6) 1,230.7 (-23.8) 1,084.1 (-11.9) ที่อยู่อาศัย พันตาราง เมตร 911.1 (-10.6) 922.5 (1.3) 674.2 (-26.9) 525.0 (-22.1) พาณิชยกรรม พันตาราง เมตร 281.8 (-4.1) 208.8 (-25.9) 112.3 (-46.2) 171.0 (-52.3) อุตสาหกรรม พันตาราง เมตร 2.0 (7,082.1) 1.6 (-20.6) 3.3 (105.9) 1.3 (-60.3) บริการและขนส่ง พันตาราง เมตร 150..8 (-23.6) 137.1 (-9.0) 149.8 (9.3) 147.4 (-52.7) อื่นๆ พันตาราง เมตร 330.4 (-36.0) 345.0 (4.4) 291.1 (-15.6) 239.4 (-17.8) ปริมาณการจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์ 2/ คัน 54,202 (10.4) 42,360 (-21.8) 39,768 (-6.1) 36,779 (-7.5) ค่าธรรมเนียมขายและขายฝากที่ดิน 3/ ราย 67,678 (5.4) 64,270 (-5.0) 58,016 (-9.7) 59,807 (3.1) ค่าธรรมเนียม ล้านบาท 957.7 (15.2) 882.2 (-7.8) 733.9 (-16.8) 723.8 (-1.4) ภาษีมูลค่าเพมิ่ หมวดการก่อสร้าง 4/ ล้านบาท 1,196.6 (9.1) 1,292.1 (8.0) 1,808.1 (39.9) 1,985.4 (9.8) มูลค่าน าเข้าสนิค้าทุน ประเภทเครื่องจักรและส่วนประกอบ 5/ ล้านดอลลาร์ สรอ. 21.4 (-21.9) 14.2 (-33.6) 11.5 (-19.0) 12.1 (5.2) โครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริม การลงทุน 6/ โครงการ 71 (-36.6) 96 (35.2) 99 (3.1) n.a. n.a. เงินลงทุน ล้านบาท 11,137.1 (-65.5) 24,045.5 (115.9) 34,942.2 (45.3) n.a. n.a. สินเชื่อธนาคารพาณิชย์เพื่อการก่อสร้าง ล้านบาท 13,599.0 (10.1) 14,233.0 (4.7) 14,632.2 (2.8) 15,392.6 (5.2) สินเชื่อธนาคารพาณิชย์เพื่อธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ล้านบาท 18,194.5 (-0.2) 17,254.6 (-5.2) 16,772.2 (-3.1) 15,362.3 (-8.4) หมายเหตุ : ตัวเลขใน ( ) เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน หน่วยเป็นร้อยละ P ตัวเลขประมาณการ, R ตัวเลขแก้ไข ที่มา : 1/ ส านักงานเทศบาลเมืองและเทศบาลนครในภาคเหนือ 2/ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม 3/ ส านักงานที่ดินจังหวัดในภาคเหนือ 4/ ส านักสารสนเทศ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง 5/ กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง 6/ ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนในภาคเหนือ
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
23
ภาคการคลัง
บทบาทภาครัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคเหนือสามารถท าได้ดี จากภาครัฐมีมาตรการเร่งรัดการใช้จ่าย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มเติม ท าให้สามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านคลัง จังหวัดในภาคเหนือได้ดี โดยในปีงบประมาณ 2559 มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 195,472.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 และเม็ดเงินกระจายตัวทั้งภาคเหนือ ตอนบนและตอนล่าง จากรายจ่ายประจ าเพิ่มขึ้นตามการเบิกจ่ายหมวด ด าเนินงานทั้งค่าตอบแทนและค่าใช้สอยที่ส่วนหนึ่งเป็นการจัด ประชุมสัมมนาของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงเงินโอนอุดหนุนให้กับองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นและสถาบันการศึกษา เพื่อด าเนินการตามโครงการ ของรัฐบาล ขณะที่การเบิกจ่ายเงินเดือนลดลง เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐ บางแห่งจ่ายตรงเงินเดือนให้กับพนักงานโดยไม่ผ่านระบบงานคลังจังหวัด แต่เม็ดเงินดังกล่าวยังคงน ามาใช้จ่ายในพื้นที่ รูปภาพที่ 8 การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ
ด้านการเบิกจ่ายงบลงทุนขยายตัวดีจากการเบิกจ่ายโครงการ ก่อสร้างและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานระบบถนนของกรมทางหลวง และ กรมทางหลวงชนบท การก่อสร้างอาคารของโรงพยาบาล และสถาบัน การศึกษาในจังหวัดต่างๆ รวมถึงเงินโอนสนับสนุนค่าครุภัณฑ์และก่อสร้าง ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบกับภาครัฐมีมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจเพิ่มเติมจากทั้งมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับต าบล (ต าบล
การใช้จ่ ายภาครัฐปี 2559 มีบทบาทในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจ และกระจายตัวดี ทั้งภาคเหนือตอนบนและ ตอนล่าง
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
24
ละ 5 ล้านบาท) โครงการการลงทุนขนาดเล็ก โครงการยกระดับศักยภาพ หมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ นอกจากนี้ ยังมีเงินนอกงบประมาณรายจ่ายจากโครงการกู้เงินเพื่อการพัฒนาระบบ บริหารจัดการทรัพยากรน้ าและระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วนเข้ามามี ส่วนช่วยสนับสนุนเพิ่มเติม ทั้งนี้ หน่วยงานที่เบิกจ่ายงบประมาณสูง 10 อันดับแรกใน ปีงบประมาณ 2559 คิดเป็นสัดส่วนรวมกันร้อยละ 74.3 ของการเบิกจ่าย งบประมาณในภาคเหนือทั้งสิ้น เรียงตามล าดับดังนี้ 1. ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 56,809.6 ล้านบาท 2. งบกลาง 28,745.5 ล้านบาท 3. กรมทางหลวง 11,824.8 ล้านบาท 4. กรมชลประทาน 8,545.4 ล้านบาท 5. กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น 8,303.6 ล้านบาท 6. กองทัพบก 7,281.8 ล้านบาท 7. กรมทางหลวงชนบท 6,435.8 ล้านบาท 8. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 5,880.7 ล้านบาท 9. กรมการปกครอง 5,755.4 ล้านบาท 10. ส านักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 5,559.9 ล้านบาท โดยจังหวัดที่เบิกจ่ายมาก 5 อันดับแรก คิดเป็นสัดส่วนรวมกันร้อย ละ 53.6 ของการเบิกจ่ายงบประมาณในภาคเหนือ ได้แก่ 1. เชียงใหม่ 38,794.9 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19.8 2. พิษณุโลก 20,791.7 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10.6 3. เชียงราย 18,080.0 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 9.2 4. นครสวรรค์ 14,278.9 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.3 5. ล าปาง 12,886.7 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.6
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
25
ตารางที่ 9 การเบิกจ่ายเงินงบประมาณผ่านคลังจังหวัดในภาคเหนือ (หน่วย : ล้านบาท) ประเภท 2557 2558 2559 รายจ่ายรวม 192,540.4 179,914.8 195,472.6 (-1.0) (-6.6) (8.6) บุคลากร 75,121.9 61,730.6 57,330.5 (-0.8) (-17.8) (-7.1) ด าเนินงาน 23,464.9 23,970.7 24,353.9 (6.0) (2.2) (1.6) เงินอุดหนนุ 44,944.4 31,785.8 36,018.4 (1.5) (-29.3) (13.3) ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 33,633.5 45,628.8 52,496.2 (-9.9) (35.7) (15.1) ครุภัณฑ์ 1,942.6 2,837.3 2,930.8 (-46.1) (46.1) (3.3) อื่น ๆ 13,433.1 13,961.6 22,342.8 (18.3) (3.9) (60.0) รายจ่ายประจ า 149,501.1 120,031.3 128,441.8 (2.5) (-19.7) (7.0) รายจ่ายลงทุน 43,039.3 59,883.5 67,030.8 (-11.4) (39.1) (11.9) ที่มา: กระทรวงการคลัง หมายเหตุ ตัวเลขใน ( ) เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน หน่วยเป็นร้อยละ แนวโน้มการใช้จ่ายภาครัฐปี 2560 คาดว่าภาครัฐยังมีบทบาท สนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจต่อเนื่อง และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาค ธุรกิจ โดยคาดว่าภาครัฐจะเร่งการเบิกจ่ายงบลงทุนในงบประมาณปกติ โครงการระบบขนส่งทางถนนและระบบชลประทาน มาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจต่อเนื่องจากปีก่อน โครงการลงทุนขนาดเล็ก รวมทั้งงบประมาณ รายจ่ายเพิ่มเติมปี 2560 ผ่านโครงการกลุ่มจังหวัดเพื่อสร้างความเข็มแข็ง และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาค
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
26
รูปภาพที่ 9 รายได้จัดเก็บ
ด้านรายได้จัดเก็บของหน่วยงานราชการในปีงบประมาณ 2559 มี ทั้งสิ้น 51,090.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อนร้อยละ 18.7 จากฐาน ภาษีการบริโภค รายได้ของบุคคลและภาคธุรกิจ รวมถึงฐานภาษีภาคการ ผลิต ทั้งจากการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี และกิจกรรมทาง เศรษฐกิจที่มากขึ้น สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปรับดีขึ้นอย่างค่อยเป็น ค่อยไป สะท้อนให้เห็นจากการจัดเก็บภาษีสรรพากร เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 เป็น 32,654.2 ล้านบาท จากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อย ละ 4.5 3.0 13.7 7.9 และ 3.8 ตามล าดับ การจัดเก็บภาษีสรรพสามิต เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.9 เป็น 18,144.1 ล้านบาท ส่วนส าคัญมาจากการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์เร่งตัว จากปีก่อนร้อยละ 50.0 จากบริษัทผู้ผลิตเร่งผลิตเพื่อออกผลิตภัณฑ์รูปแบบ ใหม่สู่ท้องตลาด ส าหรับภาษีอากรขาเข้าผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือ จัดเก็บได้ 292.7 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 18.3 ในด่านแม่สอด เชียงของ และ แม่สะเรียง อย่างไรก็ดี อากรน าเข้าในด่านแม่สาย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอนเพิ่มขึ้น จากการน าเข้าสินค้าประเภทเครื่องแต่งกาย ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ และโคกระบือมีชีวิต
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
27
ทั้งนี้ จังหวัดที่มีการจัดเก็บรายได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ก าแพงเพชร 15,856.6 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 31.0 2. เชียงใหม่ 11,946.6 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23.4 3. นครสวรรค์ 4,517.1 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 8.8 4. เชียงราย 2,984.5 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.8 5. ล าพูน 2,507.1 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.9 ตารางที่ 10 การจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการในภาคเหนือ (หน่วย : ล้านบาท) 2556 2557 2558 รายได้รวม 40,811.1 43,039.0 51,090.9 (-2.8) (5.5) (18.7) 1. ภาษีสรรพากร 29,179.3 30,244.6 32,654.2 (-2.6) (3.7) (8.0) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 8,268.0 8,295.5 8,665.7 (-13.9) (0.3) (4.5) ภาษีเงินได้นิติบุคคล 6,647.4 6,991.3 7,200.5 (-5.2) (5.2) (3.0) ภาษีมูลค่าเพิ่ม 11,071.4 11,791.3 13,402.6 (8.3) (6.5) (13.7) ภาษีธุรกิจเฉพาะ 2,278.2 2,232.4 2,408.1 (8.9) (-2.0) (7.9) อากรแสตมป์ 885.5 902.2 936.6 (-11.0) (1.9) (3.8) อื่น ๆ 28.9 31.9 40.7 (6.2) (10.4) (27.6) 2. ภาษีสรรพสามิต 11,438.5 12,436.2 18,144.1 (-3.9) (8.7) (45.9) ภาษีสุรา 10,589.5 11,579.2 17,365.0 (-3.3) (9.3) (50.0) ภาษีเครื่องดื่ม 620.8 597.7 510.2 (-22.3) (-3.7) (-14.6) ภาษีน้ ามัน 49.6 82.6 96.4 (-2.2) (66.4) (16.7)
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
28
2556 2557 2558 ภาษีบริการ 51.8 55.3 57.0 (1.7) (6.8) (3.2) ภาษียาสูบ 100.2 83.2 63.6 (122.7) (-17.0) (-23.5) อื่น ๆ 26.6 38.2 51.7 (86.0) (43.6) (35.4) 3. อากรขาเข้าศุลกากร 193.3 358.2 292.7 (29.2) (85.3) (-18.3) ที่มา: ส านักงานสรรพากรพื้นที่ ส านักงานสรรพสามติพนื้ที่และด่านศลุกากรในภาคเหนือ หมายเหตุ ตัวเลขใน ( ) เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน หน่วยเป็นร้อยละ การค้าต่างประเทศ
รูปภาพที่ 10 สินค้าส าคัญส่งออกผ่านด่านศุลกากรในภาคเหนือ
ปี 2559 การส่งออก มีมูลค่า 5,273.6 ล้านดอลลาร์ สรอ. หดตัว เล็กน้อยร้อยละ 1.0 ตามการส่งออกชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของ ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมล าพูน ไปจีน ฮ่องกง และสิงค์โปร์ ที่ ปรับลดลงต่อเนื่องในช่วง 3 ไตรมาสแรก แต่ปรับดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ตามการส่งออกไปญี่ปุ่น ในกลุ่มชิ้นส่วนอุปกรณ์ในโทรศัพท์มือถือ (Smart phone) ที่ปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี ท าให้สามารถส่งออกเพิ่มได้ รวมทั้งสินค้า อุตสาหกรรมอื่นๆ ไปสหรัฐอเมริกา และเยอรมนี ด้านการส่งออกผ่าน ชายแดนไปเมียนมา ขยายตัวดีในช่วงครึ่งปีแรก แต่ชะลอลงในช่วงครึ่งปี
การ ส่งออกปี 2559 หดตัว เล็กน้อย จากการส่งออก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่ ปรับดีขึ้นในช่วงปลายปี
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
29
หลัง ตามการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะน้ าตาลทราย โทรศัพท์มือถือพร้อมอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลทางการเกษตร ส่วนหนึ่ง เป็นผลจากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน ส่งผลกระทบเส้นทาง ขนส่งสินค้า ส่วนการส่งออกไปลาวและจีนตอนใต้ หดตัวตามการเข้มงวด น าเข้าสินค้าตามแนวชายแดนของจีน สินค้าส าคัญที่ปรับลดลง ได้แก่ น้ ามัน เชื้อเพลิง ผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ น้ าตาลทราย และรถยนต์บรรทุก
ตารางที่ 11 มูลค่าการส่งออกและอัตราการขยายตัว (%YoY) 2555 2556 2557 2558 2559 ส่งออกรวม 24.0 3.5 15.0 -0.4 -1.0 ประเทศอื่นๆ 7.8 -7.8 9.6 -13.6 -4.7 ค้าชายแดน 42.9 13.4 18.8 8.4 0.9 เมียนมา 46.8 15.7 21.8 7.3 7.3 ลาว 40.9 14.0 20.1 20.3 -16.5 จีนตอนใต้ 28.0 0.5 -1.4 -6.8 -10.6 ที่มา : กรมศุลกากร
ส าหรับการน าเข้า มีมูลค่า 2,071.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว ร้อยละ 21.5 ตามการน าเข้ากระแสไฟฟ้าผ่านด่านชายแดนลาวเป็นส าคัญ และสินค้าเกษตร อาทิ พืชผัก ผลไม้ จากจีนตอนใต้ และเมียนมา ส่วนการ น าเข้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางจากญี่ปุ่น และจีน เพื่อผลิตในอุตสาหกรรม ส่งออกประเภทชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับดีขึ้นช่วงครึ่งหลังของปี
ตารางที่ 12 มูลค่าการน าเข้าและอัตราการขยายตัว (%YoY) 2555 2556 2557 2558 2559 นา เข้ารวม 0.3 -3.6 9.8 -4.1 21.5 ประเทศอื่นๆ -1.7 -6.7 8.1 -10.6 -5.1 ค้าชายแดน 19.0 21.0 19.8 31.1 120.9 เมียนมา 58.0 73.8 46.8 -16.8 12.6 ลาว 9.1 -36.2 -72.7 1,501.4 455.3 จีนตอนใต้ 6.9 8.5 11.8 23.7 17.4 ที่มา : กรมศุลกากร
แนวโน้มการส่งออกปี 2560 คาดว่าขยายตัวได้ ตามการส่งออก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ผลิตได้ปรับเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ให้ตรง
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
30
ความต้องการของตลาด ส่วนการส่งออกผ่านชายแดนไปประเทศเพื่อนบ้าน คาดว่าขยายตัวในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค แต่ยังมีความเสี่ยงเรื่องการ เข้มงวดการน าเข้าสินค้า และเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนของ ประเทศเพื่อนบ้าน
เสถียรภาพด้านราคา
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของภาคเหนืออยู่ในระดับต่ าที่ร้อยละ 0.06 เป็น ผลของราคาน้ ามันดิบในตลาดโลกปรับลดลงในช่วง 3 ไตรมาสแรกเป็น ส าคัญ ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรบางส่วนปรับสูงขึ้นตามผลกระทบจากภาวะ แล้งในช่วงกลางปี ส่วนราคาสินค้าและบริการอื่นโดยทั่วไปไม่มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยส าคัญ ราคาขายปลีกน้ ามันในประเทศลดลงช่วง 3 ไตรมาสแรก ส่งผลให้ ค่าไฟฟ้าและค่าโดยสารปรับลดลงด้วย แต่ช่วงไตรมาส 4 ราคาน้ ามันขาย ปลีกในประเทศเริ่มปรับสูงขึ้น เพราะ OPEC สามารถจ ากัดปริมาณการ ผลิตน้ ามันท าให้ราคาน้ ามันดิบโลกสูงขึ้น ส าหรับราคาอาหารสดโดยรวม ทรงตัว ราคาอาหารสดที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ผัก ผลไม้ ซึ่งเป็นกระทบแล้งช่วง กลางปี ท าให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ส่วนราคาอาหารสดที่ลดลงช่วงต้นปี ได้แก่ เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ จากการจัดการฟาร์มได้มาตรฐานท าให้โรคระบาด ลดลง ผลผลิตจึงออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลง โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.57 อัตราเงินเฟ้อ ทั่วไปปี 2559 อยู่ในระดับต่ า ตาม ราคา น้ ามัน แต่ช่วงไตรมา ส 4 เริ่มปรับเพิ่มขึ้น
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
31
รูปที่ 11 องค์ประกอบของดัชนีราคาผู้บริโภคภาคเหนือ
ตารางที่ 13 องค์ประกอบดัชนีราคาผู้บริโภคภาคเหนือ อัตราการเปลี่ยนแปลง (%YoY) น้ าหนัก (ร้อยละ) 2558 2559 2559 ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป 100.00 -1.42 0.06 -0.93 0.25 0.15 0.77 หมวดอาหารและเครื่องดมื่ไม่มีแอลกอฮอล์ 35.74 0.77 1.41 0.35 2.47 1.48 1.34 หมวดอื่นๆ มิใช่อาหารและเครื่องดื่ม 64.26 -2.73 -0.78 -1.72 -1.11 -0.68 0.41 เครื่องนุ่งหม่และรองเท้า 3.21 0.73 0.18 0.33 0.26 0.10 0.04 เคหสถาน 21.97 0.05 -1.04 -0.55 -1.15 -1.32 -1.15 การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล 6.77 0.90 0.87 1.01 1.17 0.91 0.38 ยานพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร 25.25 -7.83 -2.00 -5.02 -2.92 -1.50 1.54 น้ ามนัเชื้อเพลิง 5.98 1.21 0.34 0.51 0.31 0.27 0.26 การบันเทิง การอ่าน และการศึกษา 1.08 2.13 9.94 8.15 10.70 10.51 10.35 ยาสูบ และเครื่องดื่มทมี่ีแอลกอฮอล์ 32.19 -6.00 -1.03 -4.06 -0.59 -0.73 1.30 กลุ่มอาหารสดและพลงังาน 19.98 -0.02 2.20 0.39 4.00 2.36 2.03 อาหารสด 12.21 -15.51 -7.11 -12.07 -8.99 -6.66 -0.14 พลังงาน 67.81 0.88 0.57 0.54 0.65 0.56 0.53 ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน 100.00 -1.42 0.06 -0.93 0.25 0.15 0.77 ที่มา : ส านักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หมายเหตุ : ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน หมายถึง ดัชนีผู้บริโภคชุดทั่วไปที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสดและสนิค้ากลุ่มพลังงาน
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
32
ภาวะแรงงาน
การจ้างงานปี 2559 ลดลงจากปีก่อน จากการจ้างงานในภาค การเกษตรเป็นส าคัญ ขณะที่นอกภาคการเกษตรขยายตัวในสาขาโรงแรมและ บริการด้านอาหาร การก่อสร้าง และการค้า ส่วนสาขาการผลิตลดลงจากปี ก่อน ส าหรับอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ า โดยปรับเพิ่มจากปีก่อนเพียง เล็กน้อย จ านวนผู้ว่างงานที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับผู้ประกันสังคมตามมาตรา 39 (ภาคสมัครใจ) และผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเพิ่มขึ้น ภาวะการมีงานท าปี 2559 ผู้มีงานท าลดลงร้อยละ 1.3 จากปีก่อน โดยเฉพาะการจ้างงานภาคการเกษตรลดลงร้อยละ 7.4 จากภาวะแล้งท าให้ ความต้องการแรงงานในการเพาะปลูกพืชส าคัญลดลง ได้แก่ ข้าวนาปรัง มันส าปะหลัง และอ้อย ขณะที่การจ้างงานนอกภาคการเกษตรขยายตัวร้อย ละ 3.7 จากสาขาโรงแรมและบริการด้านอาหาร สาขาการก่อสร้าง และ สาขาการค้า อย่างไรก็ตาม ในปีนี้สาขาการผลิตการจ้างงานลดลง ภาคการ ผลิตเพื่อส่งออกบางส่วนปรับลดจ านวนพนักงาน บางรายใช้มาตรา 75 เพื่อ หยุดจ้างแรงงานชั่วคราว และลดการท างานล่วงเวลา ปรับใช้ outsource เพื่อควบคุมต้นทุน รวมทั้งใช้เครื่องจักรทดแทนแรงงานมากขึ้น แม้ในช่วง ครึ่งหลังของปีภาคการผลิตจะปรับดีขึ้น แต่ความต้องการแรงงานยังฟื้นตัว ช้า อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งหลังของปีมีบริษัทผู้ผลิตเครื่องประดับรายใหญ่ ขยายฐานการผลิตมายังจังหวัดล าพูน ท าให้มีการจ้างงานในพื้นที่เพิ่มขึ้น บ้าง
ด้านอัตราการว่างงานของภาคเหนือปี 2559 อยู่ในระดับต่ าที่ร้อย ละ 1.0 โดยปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน จ านวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นในภาค การเกษตรที่ประสบภาวะแล้ง ส่วนผู้ว่างงานนอกภาคการเกษตรส่วนใหญ่ อยู่ในสาขาการค้า สาขาก่อสร้าง และสาขาการผลิต
การจ้างงาน ปี 2559 ลดลง จากภาคเกษตร แต่ นอก ภาค เกษตรขยายตัวได้ ขณะที่อัตราการว่างงาน อยู่ในระดับต่ า
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
33
ตารางที่ 14 การสา รวจภาวะการท างานของประชากรในภาคเหนอื % YoY สัดส่วน 2559 2558 2559 2559 ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 ก าลังแรงงาน (พันคน) 100.0 6,486 6,407 6,468 6,332 6,442 6,383 ผู้มีงานท า 98.5 -1.4 -1.3 0.9 -1.9 -1.3 -3.0 ภาคเกษตร 41.8 -6.8 -7.4 -6.3 -12.4 -4.7 -6.6 นอกภาคเกษตร 56.7 3.5 3.7 6.5 6.2 1.6 0.1 - การค้า 15.4 5.7 3.5 5.8 1.1 2.3 4.8 - การผลิต 9.9 -1.0 -0.9 4.2 3.6 -7.6 -4.1 - ก่อสร้าง 7.6 -1.7 4.6 8.6 8.1 -1.1 1.1 - โรงแรมและบริการด้านอาหาร 6.0 9.6 7.3 8.1 17.6 4.5 -0.1 - อื่นๆ 17.8 5.0 5.6 7.0 8.1 7.6 0.0 ผู้ว่างงาน (พันคน) 1.0 49.7 60.9 62.5 54.3 63.6 63.0 ก าลังแรงงานที่รอฤดูกาล (พันคน) 0.5 39.7 34.8 40.3 69.7 7.6 21.4 อัตราการว่างงาน (%) 1.0 0.8 1.0 1.0 0.9 1.0 1.0 ที่มา : การส ารวจภาวะการท างานของประชากร โดยส านักงานสถติิแห่งชาติ ค านวณโดยธนาคารแหง่ประเทศไทย รูปภาพที่ 12 การว่างงานของภาคเหนือ
ค่าจ้างเฉลี่ยของผู้มีงานท าปี 2559 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 จากปีก่อน โดยค่าจ้างเฉลี่ยในภาคเกษตรกรรมลดลงร้อยละ 1.5 ตามความต้องการ แรงงานที่ลดลง ขณะที่ค่าจ้างเฉลี่ยนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
34
ด้านค่าจ้างรวมค่าล่วงเวลาเฉลี่ยนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 เพิ่มขึ้นในสาขาการค้า สาขาการผลิต สาขาโรงแรมและบริการด้านอาหาร ร้อยละ 2.3 2.3 และ 1.7 ตามล าดับ ส่วนสาขาการก่อสร้างลดลงร้อยละ 15.3 รูปภาพที่ 13 รายได้เฉลี่ยของลูกจ้างในภาคเหนือ
ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 มี จ านวน 920,668 ราย ชะลอลงจากปีก่อนเป็นร้อยละ 1.7 จากการชะลอตัว ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ภาคบังคับ) จ านวน 733,995 ราย เพิ่มขึ้น เพียงร้อยละ 0.3 จากปีก่อน ส่วนผู้ประกันตนตามมาตรา 39 (ภาคสมัครใจ) จ านวน 186,673 ราย เร่งตัวจากปีก่อนเป็นร้อยละ 7.7 แสดงการปรับตัว ของแรงงานมาท างานอิสระเพิ่มขึ้น รวมถึงสอดคล้องกับจ านวนผู้ว่างงาน และผู้ประกันตนที่ขอรับประโยชน์ทดแทนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ตารางที่ 15 ผู้ประกนัตนในระบบประกนัสังคม จ านวนผู้ประกันตน (ราย) ธันวาคม 57 ธันวาคม 58 ธันวาคม 59 ตามมาตรา 33 679,709 732,146 733,995 0.8 7.7 0.3 ตามมาตรา 39 164,744 173,255 186,673 2.7 5.2 7.7 รวม 844,453 905,401 920,668 1.2 7.2 1.7 ที่มา : ส านักงานประกันสงัคม หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บ เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน หน่วยเป็นร้อยละ
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
35
รูปภาพที่ 14 ผู้ประกันตนมาตรา 33 รูปภาพที่ 15 ผู้ประกันตนมาตรา 39
จ านวนผู้ประกันตนที่ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ปรับ เพิ่มขึ้น ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 มีจ านวน 18,456 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.0 จากปีก่อน จ าแนกเป็นผู้สมัครใจลาออก ผู้ถูกเลิกจ้าง และผู้สิ้นสุด สัญญาจ้าง เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.4 25.0 และ 43.0 ตามล าดับ ส่วนหนึ่งเป็น ผลจากธุรกิจมียอดขายลดลงท าให้เลิกจ้างแรงงานบางส่วน การน า เครื่องจักรมาใช้ในภาคการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การปรับเปลี่ยนไป จ้าง outsource มากขึ้น รวมทั้งหน่วยงานราชการ และองค์กรส่วน ปกครองท้องถิ่นบางส่วนปรับเปลี่ยนจากการจ้างลูกจ้างราชการเป็นลูกจ้าง แบบเหมาบริการมากขึ้น ตารางที่ 16 จ านวนผู้ประกันตนที่ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน สาเหตุของการออกจากงาน ธันวาคม 57 ธันวาคม 58 ธันวาคม 59 ถูกเลิกจ้าง 1,512 2,451 3,064 สมัครใจ 11,871 12,620 14,188 สิ้นสุดสัญญาจา้ง 972 842 1,204 รวม 14,325 15,913 18,456 ที่มา : ส านักงานประกันสงัคม
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
36
รูปภาพที่ 16 จ านวนผู้ประกันตนที่ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน
แนวโน้มการจ้างงานปี 2560 คาดว่าภาวะการจ้างงานจะปรับดีขึ้น อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยความต้องการแรงงานภาคเกษตรน่าจะเพิ่มขึ้น จากภาวะแล้งคลี่คลาย ส่วนนอกภาคเกษตรความต้องการแรงงานในสาขาที่ เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวน่าจะมีแนวโน้มเติบโตได้ เช่นเดียวกับสาขาการ ผลิตความต้องการแรงงานน่าจะดีขึ้น ตามการส่งออกที่ปรับดีขึ้น ส่วนใน สาขาการค้าคาดว่าต้องการแรงงานเพิ่มตามแผนการขยายช่องทางการค้า ของภาคธุรกิจ ขณะที่แรงงานสาขาอื่นๆ น่าจะปรับดีขึ้นบ้าง สอดคล้องกับ ภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ปรับดีขึ้น
ส าหรับผลการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ า เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2560 ตามมติคณะรัฐมนตรี ปรับขึ้น 5-10 บาท เฉลี่ย 7 บาท หรือร้อยละ 2.3 ตามสภาพเศรษฐกิจของแต่ละจังหวัด คาดว่ามีผลกระทบเพียงเล็กน้อย ต่อต้นทุนและราคา
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
37
ภาคการเงิน
ณ สิ้นปี 2559 เงินฝากสถาบันการเงินในภาคเหนือ มียอดคงค้าง 1,081,801 ล้านบาท ประกอบด้วยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 637,943 ล้าน บาท และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 433,858 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนเท่ากับร้อย ละ 59.0 และ 41.0 ตามล าดับ โดยยอดคงค้างของเงินฝากสถาบันการเงินใน ภาพรวมเพิ่มขึ้น 35,554 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 ชะลอลงจากร้อยละ 4.9 ในปีก่อน ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจากเงินฝากของส่วนราชการและเกษตรกร รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อชดเชยส่วนที่ครบก าหนด ได้แก่ สลาก ออมทรัพย์พิเศษ
ด้านเงินให้สินเชื่อของสถาบันการเงินในภาคเหนือ มียอดคงค้าง 1,263,999 ล้านบาท ประกอบด้วยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ 584,528 ล้านบาท และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 679,471 ล้านบาท หรือมีสัดส่วน เท่ากับร้อยละ 46.2 และ 53.8 ตามล าดับ โดยเงินให้สินเชื่อในภาพรวมของ สถาบันการเงินมียอดคงค้างเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 19,413 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ชะลอลงจากร้อยละ 2.8 ในปีก่อน จากสินเชื่อภาคธุรกิจ และภาคครัวเรือนของธนาคารพาณิชย์แผ่วลง ส่วนหนึ่งจากภาวะเศรษฐกิจ ที่ชะลอตัว รวมถึงการพิจารณาสินเชื่อมีความเข้มงวด ขณะที่เงินให้สินเชื่อ สถาบันการเงินเฉพาะกิจยังขยายตัวได้ จากมาตรการภาครัฐเป็นส าคัญ
ตารางที่ 17 เงินฝากและเงินให้สินเชื่อของสถาบันการเงินในภาคเหนือ 2558 2559 ล้านบาท สัดส่วน %YoY ล้านบาท สัดส่วน %YoY เงินฝากสถาบันการเงิน 1,046,247 100.0 4.9 1,081,801 100.0 3.4 - ธนาคารพาณิชย์ 622,485 59.5 3.2 637,943 59.0 2.5 - สถาบันการเงินเฉพาะกิจ 423,762 40.5 7.6 443,858 41.0 4.7 สินเชื่อสถาบันการเงิน 1,244,586 320 100.0 2.8 1,263,999 100.0 1.6 - ธนาคารพาณิชย์ 588,778 47.3 -1.2 584,528 46.2 -0.7 - สถาบันการเงินเฉพาะกิจ 655,808 52.7 6.6 679,471 53.8 3.6 ที่มา : ธนาคารแหง่ประเทศไทย
สินเชื่อ ธนาคารพาณิชย์ชะลอ จากภาคธุรกิจชะลอการ ลงทุน ประกอบกับการ เข้มงวดการพิจารณาสินเชื่อ ขณะที่สถาบันการเงิน เฉพาะกิจมีบทบาทในการ ส่งผ่า นมาตรการภาครัฐ
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
38
ธนาคารพาณิชย์ รูปภาพที่ 17 เงินฝากของธนาคารพาณิชย์
เงินฝากธนาคารพาณิชย์ในภาคเหนือ มียอดคงค้าง 637,943 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 15,458 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 ชะลอตัวเล็กน้อย จากร้อยละ 3.2 ในปีก่อน จากเงินฝากออมทรัพย์ของส่วนราชการและการ ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากระยะสั้นเพื่อชดเชยส่วนที่ครบก าหนด สะท้อนจาก เงินฝากออมทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นในภาคเหนือตอนบน ร้อยละ 4.6 ขณะที่เงินฝากในภาคเหนือตอนล่างลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.7 ทั้งนี้ เงินฝากของธนาคารพาณิชย์กระจุกตัวใน 4 จังหวัดส าคัญทาง เศรษฐกิจ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ และพิษณุโลก มีสัดส่วน ร้อยละ 34.8 10.7 8.6 และ 7.5 ของเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในภาคเหนือ ด้านเงินให้สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในภาคเหนือ มียอดคงค้าง 584,528 ล้านบาท ลดลง 4,250 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.7 ส่วนส าคัญเป็น การลดลงในภาคเหนือตอนล่างร้อยละ 2.4 โดยปัจจัยฉุดรั้งที่ท าให้สินเชื่อ ภาคธุรกิจลดลงมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และธนาคารพาณิชย์ยังคง รักษามาตรฐานการพิจารณาสินเชื่อ ส่งผลให้ปริมาณสินเชื่อใหม่ที่ให้แก่ภาค ธุรกิจอยู่ในระดับต่ า ทั้งนี้ เงินให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์กระจุกตัวใน จังหวัดเชียงใหม่ นครสวรรค์ พิษณุโลก และเชียงราย สัดส่วนร้อยละ 31.0 11.8 9.7 และ 9.6 ตามล าดับ
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
39
รูปภาพที่ 18 เงินให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์
รูปภาพที่ 19 สินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคล
ทางด้านสินเชื่อภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลงเหลือร้อยละ 0.8 เป็นการชะลอตัวของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย แนวราบปรับลดลง ขณะที่แนวสูงขยายตัวในอัตราชะลอลง โดยยอดคงค้าง สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่วนส าคัญจากมาตรการ กระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อยานยนต์ยังไม่ฟื้นตัว ส่วน สินเชื่อส่วนบุคคลอื่นๆ แม้ปรับดีขึ้นบ้าง แต่โดยภาพรวมยังฟื้นตัวช้า โดยมี ปัจจัยบั่นทอนจากหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง และรายได้ของครัวเรือน
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
40
โดยเฉพาะภาคเกษตรยังอ่อนแอ ทั้งนี้ สินเชื่อภาคครัวเรือนส่วนใหญ่ลดลง ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างร้อยละ 2.1 ขณะที่ภาคเหนือตอนบนยังเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.6 โดยเฉพาะในเชียงใหม่ เชียงราย และล าพูน ตารางที่ 18 ประเภทเงินให้สินเชื่อภาคครัวเรือนของธนาคารพาณิชย์ หน่วย : ล้านบาท 2557 2558 2559 รวมสินเชื่อครัวเรือน 272,374 236,292 238,084 (5.4) (-13.3) (0.8) เพื่อที่อยู่อาศัย 102,672 111,411 114,599 (14.1) (8.5) (2.9) เช่าซื้อ 92,037 45,849 42,269 (-7.8) (-50.2) (-7.8) ส่วนบุคคลอื่น 77,665 79,032 81,216 (13.2) (1.8) (2.8) ที่มา : ธนาคารแหง่ประเทศไทย หมายเหตุ ตัวเลขใน ( ) เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน หน่วยเป็นร้อยละ ส่วนสินเชื่อภาคธุรกิจส่วนใหญ่ปรับลดลง ตามความต้องการลงทุน ของภาคธุรกิจที่ลดลง และธนาคารพาณิชย์ยังคงรักษามาตรฐานการอนุมัติ สินเชื่อ โดยสินเชื่อภาคธุรกิจที่ปรับลดลง ได้แก่ สินเชื่ออุตสาหกรรมการผลิต มียอดคงค้าง 64,587 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.9 ส่วนส าคัญจากสินเชื่อให้แก่ธุรกิจโรงสีข้าว การผลิต น้ าตาลทราย การผลิตมันเส้นและมันอัดเม็ด อย่างไรก็ดี การแปรรูปและ การถนอมอาหารผลไม้และผักยังเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สินเชื่อส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ ในจังหวัดนครสวรรค์ เชียงใหม่ และก าแพงเพชร ร้อยละ 20.0 17.6 และ 15.0 ตามล าดับ สินเชื่อธุรกิจการเงิน 50,256 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9.1 โดยเฉพาะสินเชื่อของสหกรณ์ออมทรัพย์ลดลงร้อยละ 15.9 ทั้งภาคเหนือ ตอนบนและตอนล่าง ส่วนหนึ่งจากธนาคารพาณิชย์เข้มงวดการให้สินเชื่อแก่ สหกรณ์ออมทรัพย์ โดยสินเชื่อส่วนใหญ่กระจุกตัวในเชียงใหม่และ นครสวรรค์ สัดส่วนร้อยละ 24.5 และ 22.2 ตามล าดับ สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ มียอดคงค้าง 15,362 ล้านบาท ลดลง ต่อเนื่องร้อยละ 8.4 โดยลดลงเกือบทุกประเภททั้งสินเชื่อจัดสรรที่ดินพร้อม สิ่งปลูกสร้างในแนวราบ อาคารสูง อาคารพาณิชย์ และเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ สอดคล้องกับภาวะอสังหาริมทรัพย์ยังซบเซา สะท้อนจาก
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
41
สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ลดลงในจังหวัดเชียงใหม่ นครสวรรค์ และพิษณุโลก ร้อยละ 8.6 14.6 และ 15.4 ตามล าดับ อย่างไรก็ดี สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ในจังหวัดเชียงรายเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 จากปีก่อน สินเชื่อธุรกิจขนส่ง ยอดคงค้าง 5,918.3 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8.8 โดยเฉพาะกิจกรรมการขนส่งสินค้าทางถนน การขนส่งผู้โดยสารทางรถ ประจ าทาง คลังสินค้าและการจัดเก็บสินค้าธัญพืช และส่วนใหญ่ลดลงใน จังหวัดเชียงใหม่ และพิษณุโลก อย่างไรก็ดี เชียงราย และนครสวรรค์ยัง เพิ่มขึ้น ส าหรับสินเชื่อภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ได้แก่ สินเชื่อค้าส่งค้าปลีก มียอดคงค้าง 157,713 ล้านบาท เพิ่มขึ้นใน อัตราชะลอลงเหลือร้อยละ 0.4 โดยยังมีความต้องการสินเชื่อในธุรกิจการ ขายส่งวัตถุดิบทางการเกษตร ขายส่งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ขายส่งวัสดุ ก่อสร้างและขายส่งปุ๋ยและเคมีภัณฑ์ทางการเกษตร ทั้งนี้ สินเชื่อค้าส่งค้า ปลีกกระจุกตัวในจังหวัดหลักทางเศรษฐกิจ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ และพิษณุโลก สัดส่วนร้อยละ 21.1 12.9 9.9 และ 9.3 ตามล าดับ สินเชื่อการก่อสร้าง มียอดคงค้าง 15,393 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 ในส่วนที่ขยายตัวดี ได้แก่ การก่อสร้างงานของภาครัฐ การรับเหมา ก่อสร้างโรงงาน สะพานและอุโมงค์ของส่วนราชการ ทั้งนี้ สินเชื่อการ ก่อสร้างส่วนใหญ่กระจุกตัวในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย โดยมีสัดส่วน ร้อยละ 35.3 และ 9.5 ตามล าดับ สินเชื่อธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร มียอดคงค้าง 10,468 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.0 สอดคล้องกับภาคท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี โดยเฉพาะใน เชียงใหม่ และพิษณุโลก ซึ่งมีสัดส่วนสินเชื่อร้อยละ 60.4 และร้อยละ 9.9 โดยขยายตัวร้อยละ 16.7 และ 4.3 ตามล าดับ
สินเชื่อเพื่อบริการสุขภาพ มียอดคงค้าง 1,579 ล้านบาท เร่งตัว ร้อยละ 35.9 ส่วนส าคัญจากกิจกรรมโรงพยาบาล คลินิกโรคทั่วไปและ คลินิกทันตกรรมขยายตัวดี ทั้งนี้ สินเชื่อกระจุกตัวอยู่ในเชียงใหม่และ เชียงราย สัดส่วนสินเชื่อร้อยละ 66.9 และ 9.6 ซึ่งขยายตัวสูงร้อยละ 62.0 และ 58.3 ตามล าดับ
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
42
รูปภาพที่ 20 สินเชื่อธุรกิจภาคเอกชน
แนวโน้มในปี 2560 เงินฝากธนาคารพาณิชย์คาดว่าเพิ่มขึ้น ส่วน หนึ่งจากสภาพคล่องส่วนเกินโดยรวมยังเหลืออยู่ ดังนั้น การออกผลิตภัณฑ์ เงินฝากที่จูงใจยังคงมีอยู่ แต่ส่วนใหญ่เพื่อทดแทนเงินฝากเดิมส่วนที่ครบ ก าหนด และผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ออกมาใหม่น่าจะเป็นเงินฝากระยะสั้น มากกว่าเงินฝากระยะยาว เช่น เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ส่วนสินเชื่อคาดว่า น่าจะกลับมาขยายตัวได้ ตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะสินเชื่อภาคธุรกิจ ส่วนสินเชื่อภาคครัวเรือนคาดว่าขยายตัวได้ ต่อเนื่อง
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
43
ตารางที่ 19 ประเภทเงินให้สินเชื่อภาคธุรกิจเอกชนของธนาคารพาณิชย์ หน่วย : ล้านบาท 2557 2558 2559 รวมเงินให้สินเชื่อภาคธุรกิจเอกชน 323,273 352,486 346,444 (4.3) (9.0) (-1.7) เกษตรกรรม ประมง และเหมืองแร่ 13,922 15,442 15,519 (6.7) (10.9) (0.5) อุตสาหกรรมการผลิต 55,440 66,525 64,587 (19.6) (20.0) (-2.9) การสาธารณูปโภค 7,071 7,251 6,935 (6.2) (2.5) (-4.4) การก่อสร้าง 14,233 14,632 15,393 (4.7) (2.8) (5.2) การพาณิชย์ 144,080 157,066 157,713 (5.4) (9.0) (0.4) ธุรกิจการเงิน 52,329 55,287 50,256 (-6.9) (5.7) (-9.1) อสังหาริมทรัพย์ 17,255 16,772 15,362 (-5.2) (-2.8) (-8.4) การบริการอื่นๆ(เช่น โรงแรมฯ) 13,672 14,268 15,497 (-1.6) (4.4) (8.6) อื่นๆ 5,271 5,243 5,182 (1.4) (-0.5) (-1.2) ที่มา : ธนาคารแหง่ประเทศไทย หมายเหตุ ตัวเลขใน ( ) เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน หน่วยเป็นร้อยละ
สถาบันการเงินเฉพาะกิจ เงินฝากสถาบันการเงินเฉพาะกิจในภาคเหนือ มียอดคงค้าง 443,858 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20,096 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.7 จากเงินฝากของเกษตรกรและการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากประเภทออมทรัพย์ พิเศษ เพื่อรองรับการให้สินเชื่อโครงการภาครัฐ สะท้อนให้เห็นเงินฝาก เพิ่มขึ้นเกือบทุกแห่งทั้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่ร้อยละ 6.6 3.2 และ 2.3 ตามล าดับ นอกจากนี้ เงินฝากเพิ่มขึ้นทั้งในภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง โดยเฉพาะในทุกจังหวัดเชียงใหม่ ตาก เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน ล าปางและ น่าน ที่ร้อยละ 9.5 8.4 7.9 7.5 6.7 และ 6.6 ตามล าดับ
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
44
ทั้งนี้ เงินฝากสถาบันการเงินเฉพาะกิจส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ใน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน สัดส่วนร้อยละ 50.6 และ 42.9 ตามล าดับ และกระจุกตัวในเชียงใหม่ นครสวรรค์ เชียงราย ล าปาง และพิษณุโลก สัดส่วนร้อยละ 19.4 10.2 8.6 7.8 และ 7.3 ตามล าดับ รูปภาพที่ 21 เงินฝากของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
ด้านเงินให้สินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจในภาคเหนือมียอด คงค้าง 679,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 23,663 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 ชะลอลงจากร้อยละ 6.5 ในปีก่อน องค์ประกอบส าคัญมาจากการ ส่งผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐครอบคลุมทุกภาคส่วน ทั้ง โครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โครงการสินเชื่อเพื่อรายย่อย โครงการบ้านประชารัฐ และโครงการสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SMEs สะท้อนให้เห็นจากเงินให้สินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 11.9 และ 14.9 ตามล าดับ และการขยายตัวครอบคลุมทั้งภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง โดยเฉพาะ จังหวัดพะเยา พิจิตร เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ และตาก ที่ร้อยละ 7.1 6.9 6.2 6.0 และ 5.7 ตามล าดับ
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
45
ตารางที่ 20 เงินฝากของสถาบันการเงินเฉพาะกิจจ าแนกสถาบันการเงิน หน่วย : ล้านบาท 2557 2558 2559 เงินฝาก(ล้านบาท) 393,822 423,762 443,858 (6.1) (7.6) (4.7) ธนาคารออมสิน 173,056 184,542 190,495 (4.2) (6.6) (3.2) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร 197,304 210,788 224,751 (6.2) (6.8) (6.6) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 14,476 19,497 19,937 (20.0) (34.7) (2.3) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 8,986 8,935 8,675 (24.4) (-0.6) (-2.9) ที่มา : ธนาคารออมสนิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หมายเหตุ ตัวเลขใน ( ) เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน หน่วยเป็นร้อยละ
ทั้งนี้ สินเชื่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ใน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน สัดส่วนร้อยละ 46.1 และ 37.0 และส่วนมากอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ สัดส่วนร้อยละ 15.2 9.0 8.9 8.6 และ 7.4 ตามล าดับ รูปภาพที่ 22 สินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
รายงานเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ปี 2559
46
ตารางที่ 21 เงินให้สินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจจ าแนกตามสถาบันการเงิน หน่วย : ล้านบาท 2557 2558 2559 เงินให้สินเชื่อ(ล้านบาท) 615,116 655,808 679,471 (5.4) (6.6) (3.6) ธนาคารออมสิน 254,616 254,571 251,332 (4.5) (-0.02) (-1.3) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 267,222 297,988 313,103 (5.2) (11.5) (5.1) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 75,804 84,726 94,772 (10.4) (11.8) (11.9) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อมฯ 13,695 14,584 16,754 (-6.0) (6.5) (14.9) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 3,779 3,939 3,510 (26.9) (4.2) (-10.9) ที่มา : ธนาคารออมสนิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรธนาคารอาคารสงเคราะห์ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาด และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หมายเหตุ ตัวเลขใน ( ) เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงจากปีก่อน หน่วยเป็นร้อยละ
ส าหรับแนวโน้มปี 2560 เงินฝากของสถาบันการเงินเฉพาะกิจคาดว่ายัง เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากที่จูงใจเพื่อทดแทนส่วนที่ครบก าหนด รวมถึงเพื่อส่งเสริมการออมให้กับภาคครัวเรือน และรองรับการให้สินเชื่อที่คาดว่าจะ เพิ่มขึ้นจากการส่งผ่านนโยบายของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการ SMEs น่าจะทยอยออกมาต่อเนื่องจากปีก่อน
แม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ตอบลบthailanswpucmcom.blogspot.com
แม่ปิงวิลปาร์ค บ้านพักตากอากาศและบ้านพักคนชรา ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พฤติกรรมผู้บริโภคมีส่วนในการตัดสินใจ ในการกระทำกิจกรรมทางการตลาด โครงการแม่ปิงวิ...
นายสุวรรณ กันยาภู อาชีพนักธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จ การนำเข้าและส่งออกสินค้าและให้การสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ
ตอบลบนายสุวรรณ กันยาภู อาชีพนักธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จ การนำเข้าและส่งออกสินค้าและให้การสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ